ผลสำรวจความเห็นกลุ่มแม่ยุคใหม่ “Gen Z mom” เทียบกับคุณแม่ยุคก่อนหน้าพบว่ามีความต่างกัน โดยสัดส่วนแม่ยุคใหม่มีความเชื่อถือการรีวิวสินค้าของเหล่ามือโปรฯผู้มีชื่อเสียงมากกว่า แต่เชื่อถือการรีวิวบนแพลตฟอร์มดังอย่าง Amazon, Yelp และแพลตฟอร์มอื่นน้อยกว่าแม่ในยุคก่อน
ผลการสำรวจครั้งนี้ถูกระบุไว้ในรายงานเรื่อง “Futurecasting Families: Early Insights into Generation Z & the Future of Parenting” ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิดของคนอเมริกันรุ่นใหม่ที่กำลังจะก้าวมาเป็นพ่อแม่ของครอบครัวใหม่ในอนาคต ความน่าสนใจของรายงานนี้คือแม้กลุ่มแม่ยุคใหม่ Gen Z mom จะไว้วางใจกับการรีวิวสินค้าในสื่อระดับมืออาชีพ แต่แม่กลุ่มนี้ยืนยันชัดว่าไม่ไว้วางใจในความคิดเห็นของผู้บริโภคบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Amazon และบริการแนะนำร้านอาหาร Yelp รวมถึงแพลตฟอร์มอื่นที่มีส่วนได้เสียทางการค้ากับการรีวิว
รายงานที่ถูกจัดทำโดยเว็บไซต์ BabyCenter และ Collage Group ยังพบว่า Gen Z mom หรือแม่ยุคใหม่จะเลือกหาแหล่งข้อมูลที่รู้จักและไว้ใจเมื่อต้องการความช่วยเหลือและคำแนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์ที่จะซื้อ โดยหากวิเคราะห์นอกกลุ่มแม่ พบว่ากลุ่ม Gen Z ที่เป็นผู้หญิงล้วนมีแนวโน้มยินดีชมโฆษณาดิจิทัลที่ตรงใจมากขึ้น แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับความสนใจของสาวๆ
รายงานให้รายละเอียดการสำรวจนี้ว่ากลุ่มสาว Gen Z ที่ยินดีชมโฆษณาดิจิทัลที่ตรงใจนั้นครองสัดส่วนเกือบครึ่งของกลุ่มตัวอย่าง เช่นกลุ่มเด็กหญิงที่พอใจชมโฆษณาดิจิทัล 42%, กลุ่มผู้หญิง 41% และกลุ่มแม่ 46% ขณะที่กลุ่มแม่ยุคก่อนราว 29% เท่านั้นที่แสดงจุดยืนไม่รังเกียจโฆษณาออนไลน์
หากมองในแง่ความคิดเชิงครอบครัว มากกว่า 70% ของผู้หญิง Gen Z และหญิงที่ไม่มีบุตร ยอมรับว่าประสบปัญหา FOMO หรือ fear of missing out เป็นประจำ เพราะส่วนใหญ่ใช้เวลาแทบทั้งวันบนโซเชียลมีเดียและออนไลน์บนอินเทอร์เน็ตกือบตลอดเวลา อย่างไรก็ตามตัวเลขนี้ลดลงในกลุ่มแม่ยุคก่อน
คุณแม่วัย Gen Z ในกลุ่มตัวอย่างยังเน้นเรื่องความสำเร็จเป็นหัวใจสำคัญของชีวิตในอุดมคติ เช่นเดียวกับค่านิยมดั้งเดิม เช่น การแต่งงาน และการอบรมบ่มนิยมลูกหลานก็ยังคงมีน้ำหนักอยู่ โดย ”ความสำเร็จ” เป็นตัวเลือกแรกของกลุ่มตัวอย่างผู้หญิง Gen Z ประมาณ 30% ซึ่งสูงกว่าสัดส่วนแม่ยุคก่อนที่ราว 20% เท่านั้นที่เลือกความสำเร็จ จุดนี้พบว่าผู้หญิง Gen Z มีความกังวลมากกว่ากลุ่มที่มีอายุมากกว่า ซึ่งเป็นไปได้ว่าเป็นผลจากการเติบโตในช่วงหลังวินาศกรรม 9/11
ที่มา: Marketingdive