ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับงานเสวนา Digital Matters ครั้งที่ 5 งานเสวนายามเย็นอัพเดตวงการดิจิทัล ในหัวข้อ “When Digital TV Arrives” เพื่อพบปะพูดคุยและตอบคำถามรวมถึงแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนที่ทำงานด้าน digital marketing เราพบว่าพันธมิตรด้านสื่อของเราอย่าง Spring News และ Voice TV ได้นำเสนอข่าวของเราจึงขอคัดลอกนำมาเสนออีกครั้งเพื่อสรุปงานครั้งที่ผ่านมาตรงนี้อีกครั้งครับ ส่วน slide บางส่วนอยู่ท้ายข่าวนะครับ
ครั้งนี้ thumbsup ได้จัดเสวนาอัพเดทเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับทุกคนในประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือเรื่องโทรทัศน์ระบบดิจิทัล หรือที่เราเรียกกันว่า Digital TV นั่นเอง โดยครั้งนี้ Digital Matters จับกระแสความร้อนแรงของ Digital TV ประเทศไทย โดยมองว่าจะมีการแข่งขันอย่างดุเดือดเพื่อให้เป็น 1 ใน 5 ช่องจาก 24 ช่อง และเพื่อให้สามารถอยู่รอดได้บนเวทีการแข่งขันและการดำเนินธุรกิจ ขณะที่บางรายจะต้องถอนตัวออกจากไปในอีกไม่เกิน 3 ปี
http://www.youtube.com/watch?v=NvrW25MqVSg
งาน Digital Matters ครั้งที่ 5 จับกระแสความร้อนแรงการมาของ Digital TV ด้วยหัวข้อ “When Digital TV Arrives”จากมุมมองของบุคคลในวงการและสื่อมวลชน เริ่มด้วยคุณธนัญพร อุดมจารุมณี ผู้จัดการทั่วไปบริษัท Starcom Thailand ในการวิเคราะห์ความพร้อมและผลกระทบของ broadcaster ในการเข้าสู่ Digital TV ของสังคมไทยจากระบบ analog TV 6 ช่อง ประกอบด้วย 3,5,7, Modern 9, NBT และ TPBS เพิ่มมาเป็น 24 ช่อง ในรูปแบบของช่องข่าว HD วาไรตี้ และ SD วาไรตี้ จึงเป็นการเปิดโอกาสให้กับผู้ทำคอนเทนต์หน้าใหม่มากขึ้น มีการแข่งขันสูงขึ้น เจ้าเดิมจะได้เปรียบเนื่องจากมีเงินลงทุนมาก มีพื้นฐานผู้ชมเดิมอยู่แล้ว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายใหม่อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังทำให้เจ้าของรายการสามารถเป็นเจ้าของช่องใหม่มากขึ้นอย่าง WorkPoint นับว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการโทรทัศน์ที่เหมือนการวิ่งแข่งทางไกลที่ต้องค่อยๆ พัฒนาและเรียนรู้กันไปทุกฝ่าย
นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อเคเบิ้ลทีวี และผู้ใช้จานดาวเทียม ที่มาตรฐานความคมชัดของภาพจะสู้กับ Digital TV ที่ใช้กล่อง Set Top Box แต่ก็ยังมีปัญหาในกรณีที่กสทช.ยังไม่มีความชัดเจนในการแจกจ่ายคูปองส่วนลด แลกซื้อกล่อง Set Top Box และอุปกรณ์ ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เวลา 3-4 ปี Digital TV ถึงจะเข้าที่เข้าทาง ขณะที่รายการในการนำเสนอของ 24 ช่องประกอบด้วยเนื้อหาหลัก 4 ด้าน ได้แก่ วาไรตี้ ซีรีย์ ข่าว และละคร เพื่อดึงดูผู้ชม
อย่างไรก็ตามผู้จัดการทั่วไปบริษัท Starcom Thailand เชื่อว่าการแข่งขันของ Digital TV ที่มีจำนวนถึง 24 ช่อง ซึ่งมากกว่า 6 ช่องของระบบ Analog จะทำให้การแข่งขันสูงขึ้นมาก
“ในระยะยาวจะต้องมีธุรกิจ Digital TV บางรายแข่งขันไม่ไหวและต้องถอนคัวออกจากตลาดอย่างแน่นอน ดังนั้นธุรกิจรายใดที่จะอยู่ได้หรือไม่ต้องวัดกันที่’คุณภาพของเนื้อหา’ให้ ตรงกับความสนใจของผู้บริโภค ดังนั้นในช่วงแรกทีวีทุกช่องจะต้องสู้กันในแง่ของเนื้อหารายการเพื่อให้ช่อง ใหม่ของตัวเองติดตลาดให้เร็วที่สุด ช่วงชิงเม็ดเงินโฆษณาจากคู่แข่งให้มากที่สุด”
ขณะที่คุณเดียว วรตั้งตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในกลุ่มงาน Platform Strategy and Sponsorship ของ GMM Z Trading ในเครือ GMM Grammy และคุณพัชระ สารพิมพา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สำนักข่าวสปริงส์นิวส์ ได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการปรับตัวกับ Digital TV ของสำนักข่าวสปริงค์นิวส์ที่เน้นสาระในด้านข่าวกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ และบริษัท GMM Grammy ที่เน้นนำเสนอในด้านวาไรตี้เป็นหลัก ที่ทั้ง 2 ช่องยอมรับว่าการแข่งขันของ Digital TV เป็นไปอย่างดุเดือด ผู้ที่จะอยู่รอดได้ต้องติด 1 ใน 5 ของช่องยอดนิยมในทั้งหมดจาก 24 ช่อง ซึ่งแต่ละช่องจะต้องยกความเป็นตัวตนของตัวเองในการนำเสนอเพื่อดึงผู้ชมให้ เข้ามาติดตลาดมากที่สุด โดยจะต้องเปิดกว้างกับแบรนด์ดิ้ง เอเยนซี่และผู้ที่สนใจมาทำรายการ ให้มีส่วนร่วมในการผลิตรายการรวมถึงการสนับสนุนในทุกๆ ด้าน
นอกจากนี้กองบรรณาธิการ thumbsup ยังมาวิเคราะห์จับกระแสข่าวที่น่าสนใจของโซเชียลมีเดียในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จากการที่โซเชียลมีเดียต่างๆ มีการเติบโตของจำนวนผู้ใช้มากขึ้น ทำให้ต้องมีความเป็นธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างการใช้ Facebook, Twitter, YouTube, LINE และโซเชียลอื่นๆ ที่ผู้ใช้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้มากขึ้นหากอยากจะให้คนทั่วโลกได้เห็นข้อความที่เราโพสต์ขึ้นไป โดยเฉพาะการเติบโตแบบก้าวกระโดดของแอพพลิเคชั่น LINE ที่ประเทศไทยมีผู้ใช้จำนวนมากกว่า 25 ล้านรายชื่อ เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากประเทศญี่ปุ่น และการเปลี่ยนแปลงหลายบริการอยากเจาะตลาดไทยต้อง localize ภาษา ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
ใครที่สนใจสไลด์ในส่วนของเรา ดูได้จากที่นี่เลยครับ ส่วนสไลด์อื่นๆ เราจะติดตามมาให้อีกครั้งครับ
สำหรับงาน Digital Matters ในครั้งนี้ถือเป็นอีกครั้งที่เรามีผู้เข้ารวมงานมาจากหลากหลายสายงานและหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นฝั่งเอเจนซี่ สถานีและสำนักข่าวชั้นนำ ตัวแทนจากแบรนด์ชั้นนำต่างๆ รวมไปเจ้าของกิจการส่วนตัวทีสนใจในความเคลื่อนไหวทางแวดวงดิจิทัล ซึ่งเป็นตัวตอกย้ำให้เราเห็นถึงคุณค่าของการจัดงานดีๆ แบบนี้ และแน่นอนว่างาน Digital Matters ครั้งที่ 6 ที่จะจัดขึ้นในเดือนกรกฎาคมนี้ เราก็ได้เตรียมเรื่องราวที่น่าสนใจไม่น้อยไปกว่ากันไว้เพื่อเป็นเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลและความคิดเห็นไว้เช่นเคย สำหรับใครที่ไม่อยากตกกระแสแวดวงดิจิทัล ต้องรอติดตามรายละเอียดเร็วๆ นี้ครับ
สุดท้ายนี้ทีมงานต้องขอขอบคุณพาร์ทเนอร์ของเราอย่าง Syndacast ที่มาร่วมสร้างสีสันให้กับงาน และ Spring News ที่มาแสดงเทคโนโลยีและเก็บภาพข่าวให้อย่างขยันขันแข็งด้วยครับ