เพราะความนิยมของนักฟังเพลงที่หันมานิยมการฟังเพลงผ่านวิทยุดิจิทัลกันมากขึ้น ทำให้นักการตลาดเริ่มหันมาทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์อย่างวิทยุดิจิทัลกันมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจำนวนผู้ฟังเพลงผ่านวิทยุดิจิทัลจะเติบโตเป็นอย่างมากในอนาคต
Digital Radio หรือ วิทยุดิจิทัลนั้นเป็นสื่อที่มียอดการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นักฟังเพลงที่ชอบการฟังเพลงผ่านวิทยุเริ่มหันมาใช้งานวิทยุดิจิทัลกันมากขึ้นบนอุปกรณ์ประเภทต่างๆ อย่างกว้างขวาง ทั้งคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต อุปกรณ์อื่นๆ ที่ติดตั้งมาพร้อมรถยนต์ ไปจนถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
eMarketer ได้ประมาณการณ์ว่าในปี 2014 นี้จำนวนผู้ที่ใช้งานวิทยุดิจิทัลจะเพิ่มขึ้นถึง 159.8 ล้านราย และจะเติบโตขึ้นไปอีกถึง 183.4 ล้านรายในปี 2018 ทำให้ตลาดวิทยุออนไลน์ หรือวิทยุดิจิทัลนั้นเป็นตลาดที่ค่อนข้างกว้าง ซึ่งประเมินได้ว่า 2 ใน 3 ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตนั้นฟังเพลงผ่านวิทยุดิจิทัลกันแล้ว
นอกจากจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นแล้ว บริมาณการใช้งานวิทยุดิจิทัลก็มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีกด้วย จากผลการวิจัยของ AccuStream พวกเขาได้คาดการณ์ว่าปริมาณการใช้งานผู้ใช้งานวิทยุดิจิทัลจะเพิ่มสูงขึ้น จากเฉลี่ย 4.22 ล้านชั่วโมงต่อเดือนในปี 2014 เป็น 6.7 ล้านชั่วโมงในปี 2016 อีกด้วย
ขณะที่ตลาดวิทยุดิจิทัลกำลังพัฒนาไปสู่การเป็นตลาดที่อิ่มตัว เทรนด์ในการฟังเพลงดังกล่าวยังเป็นที่นิยม ได้แก่ ความนิยมในการฟังเพลงผ่านวิทยุดิจิทัลที่มาในรูปแบบ personal station คือ วิทยุดิจิทัลที่เปิดเพลงที่คัดสรรจากความชอบของผู้ฟัง และ วิทยุดิจิทัลที่มาเป็นอีกส่วนของการเผยแพร่ของวิทยุปกติผ่านสื่อออนไลน์
นอกจากนี้การฟังวิทยุออนไลน์นั้น ยังเปลี่ยนจากการฟังบนคอมพิวเตอร์ มาเป็นอุปกรณ์อื่นๆ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่ผู้ฟังสามารถรับฟังเพลงผ่านแอปพลิเคชันวิทยุดิจิทัลมากขึ้น โดยบริการต่างๆ นั้นมีความหลากหลาย มีทั้งบริการที่สามารถรับฟังได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ไปจนถึงบริการที่ผู้ฟังต้องเสียค่าใช้จ่ายถึงเดือนละ 10 เหรียญสหรัฐฯ (หรือราวๆ 325 บาท) เพื่อเลี่ยงการฟังโฆษณาและฟังได้อย่างไม่จำกัด
และเพราะความนิยมของผู้บริโภคที่หันมาฟังวิทยุดิจิทัลมากขึ้นนี้เองที่ทำให้นักการตลาดหันมาใช้เป็นช่องทางการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นเช่นกัน หลายๆ แบรนด์ และหลายๆ องค์กรต่างหันมาลงสปอตโฆษณาบนวิทยุดิจิทัลกันมากขึ้น บางรายก็มีวิธีที่ต่างไป คือพวกเขาได้สร้าง playlist ของแบรนด์ และบางรายก็เปิดให้ผู้ฟังได้ร่วมกิจกรรม หรืออีเวนท์ต่างๆ ของแบรนด์ได้อีกด้วย นอกจากนี้บางแบรนด์ยังมีสามารถดึงผู้ฟังไปยังหน้าเว็บไซต์ของพวกเขา ที่มีรายละเอียดของแบรนด์ สินค้า ไปจนถึงการซื้อสินค้าได้ทันทีอีกด้วย
ที่มา : eMarketer
ภาพ : u2ugsm
