ในยุคที่คนไทยเร่ิมใช้งานออนไลน์กันมากขึ้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจเองก็ต้องปรับตัวให้รวดเร็วขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องของยอดขายเฉพาะช่องทางออฟไลน์มาขยายโอกาสในช่องทางออนไลน์มากขึ้น ไม่ใช่แค่เพิ่มความสามารถในการแข่งขันเพียงอย่างเดียวแล้ว
การทำ Digital Transformation จำเป็นต้องมีส่วนประกอบอะไรบ้าง?
เป็นส่วนหนึ่งในหลายคำถามที่เจ้าของธุรกิจสงสัยกันเยอะมาก หากสรุปกันแบบง่ายๆ ก็คือ
- ต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการทำธุรกิจ : การเปลี่ยนประสบการณ์ทำงานให้เป็นที่ประทับใจนั้นจะช่วยสร้างความพึงพอใจทั้งต่อลูกค้า สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพนังาน และสร้างระบบการบริหารงานที่มีประสิทธิภาพ
- เปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของผู้บริโภค : หากจำเป็นต้องวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคหรือลูกค้าหลักของเรา เพื่อกำหนดกลยุทธ์ใหม่ๆ การใช้เครื่องมือวิเคราะห์จะช่วยลดเวลาในการทำแบบสอบถามไปได้เยอะเลย
- เปลี่ยนแปลงธุรกิจให้สอดคล้องกับยุคสมัย : เรากำลังอยู่ในยุคที่ใครไม่มี LINE@, Messenger, e-mail marketing เพื่อสื่อสารกับลูกค้า ถือว่าเสียโอกาสทางการขายไปอย่างมหาศาล เพราะตอนนี้คนไทยนิยมใช้ช่องทางเหล่านี้ในการสื่อสารกับแบรนด์แล้ว
แน่นอนว่าก่อนที่จะเริ่มต้นเปลี่ยนองค์กรให้เป็น Digital Transformation แล้ว ต้องรู้จักการใช้เทคโนโลยีก่อนและรู้ว่าตัวเองควรใช้งานเครื่องมือไหนถึงจะเหมาะสมกับธุรกิจของตนเอง
คุณไชยณัฐ สัจจะปรเมษฐ์ กรรมการผู้จัดการของบริษัท Alchemist บริษัทในเครือของ Rabbit Digital Group ให้คำแนะนำว่า
ถ้าพูดถึงเรื่องเทรนด์ของดาต้าเนี่ย ผมว่าดาต้าไม่ใช่เรื่องใหม่ คนในวงการการตลาดพูดถึงดาต้ามา 2-3 ปีแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Data Analytic, AI, Matchine Learning ต่างๆ ผมว่าไม่เกิน 3 ปีข้างหน้า สิ่งที่เราเคยพูดกัน หลายสิ่งจะเป็นเรื่องธรรมดาของการตลาดไปแล้ว
“ที่ผ่านมาคำว่า big data ยังเป็น buzz word ในทางการตลาดอยู่ บ่อยครั้งที่คนก็พูดถึงโดยที่ยังไม่แน่ใจว่ามันใช้งานหรือมีประโยชน์อย่างไร แต่นับตั้งแต่ปีนี้คนจะเริ่มเห็นทุกอย่างจับต้องได้มากขึ้น โดยเฉพาะในมุมของมาร์เก็ตติ้ง มีหลายคนจะมองว่าดาต้าเป็นงานของ IT ฟังแล้ว technical มาก แล้วคนมาร์เก็ตติ้งต้องทำเรื่องนี้ด้วยเหรอ”
แต่ความจริงแล้ว ดาต้าเป็นงานของทุกคนในองค์กร ยิ่งคนทำงาน marketing จริงๆต้องใช้ดาต้าเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าจะเป็นในงานหลังบ้าน เช่น การทำ analytics ต่างๆ อย่างการวิเคราะห์ตลาด การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า ไปจนถึงงานหน้าบ้าน ก็คือการเอาดาต้ามาสร้างประสบการณ์ลูกค้า (customer experience) ให้ดีขึ้น
ดังนั้น เมื่อสรุปเทรนด์เนี่ย ผมเชื่อว่าเทรนด์ดาต้าคือสิ่งที่ทุกคนหนีไม่ได้ครับ ดาต้าจะเป็นเรื่องปกติของการตลาด เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องจะเริ่มเข้าถึงง่ายขึ้น จับต้องได้มากขึ้นครับ
สำหรับคนที่อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถพบกับคุณไชยณัฐ ได้ที่งาน icreatorconfernce ในวันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม 2020 เวลา 09.40-10.30 น. หรือใครที่สนใจอยากขอคุยข้อมูลเพิ่มเติมก็มาพบกับคุณบองเต่า เพื่อปรึกษาปัญหาเรื่องดาต้าได้เลย ที่นี่