Disney, Nestle รวมถึงต้นสังกัดผู้สร้างเกม Fortnite อย่าง Epic Games ประกาศยกเลิกการลงโฆษณาบน YouTube ชั่วคราวเพราะกังวลเรื่องเนื้อหาวิดีโอที่ไม่เหมาะสม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่บริษัทใหญ่ตัดสินใจเข้าเกียร์ว่างกับ YouTube โดยข้อมูลเบื้องต้นพบว่า YouTube จะชดเชยค่าโฆษณาบนวิดีโอกลุ่มนี้ราว 2 แสนบาทในช่วง 2 เดือน
การตัดสินใจของ Walt Disney Co., Nestle และ Epic Games Inc. กลายเป็นการตอกย้ำปัญหาเรื้อรังของ YouTube เพราะบริษัทกลุ่มนี้ตัดสินใจดึงโฆษณาออกจากอาณาจักรของ Alphabet Inc. ต้นสังกัด YouTube ที่ไม่อาจดูแลเนื้อหาไม่เหมาะสมบนเว็บไซต์ได้เท่าที่ควร
สำหรับกรณีล่าสุดนั้นเกี่ยวข้องกับวิดีโอที่โพสต์โดยบล็อกเกอร์รายหนึ่งชื่อ Matt Watson เนื้อหาวิดีโอคือการตีแผ่แง่ลบของอัลกอริธึม YouTube ที่กำลังชี้นำและอำนวยความสะดวกแก่กลุ่มผู้เป็นโรคใคร่เด็ก (pedophilia) ซึ่งทำให้คนจิตใจไม่ปกติกลุ่มนี้สามารถค้นหาวิดีโอแสดงภาพเด็กหญิงที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ขณะกำลังเล่นกีฬาที่แสดงสัดส่วนร่างกาย เช่น ยิมนาสติก ได้ง่าย
การโบกมือลา YouTube ของแบรนด์ใหญ่นั้นเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกับที่ Matt Watson อัปโหลดวิดีโอแฉ YouTube ความยาว 20 นาทีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา วิดีโอนี้ตอกย้ำโทษของอัลกอริทึม YouTube ที่เสนอหรือแนะนำวิดีโอเพิ่มเติมที่คล้ายกันได้แบบที่คนรักเด็กไม่ต้องเหนื่อย
Watson ยังระบุต้นเหตุของปัญหาที่ YouTube แก้ไม่ตกว่ามาจากส่วนแสดงความคิดเห็น เพราะชุมชนคนรักเด็กมักจะโพสต์ลิงก์วิดีโอหลายรายการเพื่อเอื้อเฟื้อแก่ผู้ชมที่มีรสนิยมเดียวกัน
ประเด็นนี้ร้อนแรงขึ้นไปอีกเมื่อ Watson ชี้ให้เห็นว่า วิดีโอฮิตของกลุ่ม pedophilia มีโฆษณาจากบริษัทใหญ่เช่น Clorox และ Disney แสดงก่อนเล่นวิดีโอ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะวิดีโอได้รับความนิยมเพราะมีผู้ชมเกือบ 2 ล้านครั้งนับตั้งแต่มีการอัปโหลด
นอกจาก Nestle, Epic Games และบริษัทบรรจุภัณฑ์อาหารสัญชาติเยอรมนี Dr. August Oetker KG ยืนยันกับ Bloomberg ว่าได้หยุดการใช้งบโฆษณาบน YouTube แล้ว หลังจากพบว่าโฆษณาของพวกเขาถูกดีแผ่ว่าเล่นก่อนวิดีโอที่เข้าข่าย “โป๊เด็ก” แต่การเคลื่อนไหวของ Disney นั้นไม่มีการเปิดเผยแหล่งที่มาว่าบริษัทคิดเห็นอย่างไร
อย่างไรก็ตาม โฆษก YouTube ไม่นิ่งนอนใจและออกแถลงการณ์ว่า ทุกเนื้อหาและทุกความคิดเห็นที่เป็นอันตรายต่อผู้เยาว์นั้นเป็นเรื่องน่ารังเกียจ และบริษัทมีนโยบายชัดเจนเรื่องห้ามไม่ให้มีการกระทำบน YouTube ดังนั้นบริษัทจะดำเนินการในทันที ผ่านการลบบัญชีและช่อง ก่อนจะรายงานพฤติกรรมที่ผิดกฎหมายต่อเจ้าหน้าที่ต่อไป
เบื้องต้น YouTube ประเมินว่าการใช้จ่ายโฆษณาทั้งหมดในวิดีโอกลุ่มเสี่ยงนั้นมีมูลค่าต่ำกว่า 8,000 เหรียญสหรัฐหรือราว 2 แสนบาทภายใน 60 วันที่ผ่านมา ซึ่งทาง YouTube วางแผนที่จะคืนเงิน
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แพลตฟอร์มที่เป็นของ Google เผชิญกับการต่อต้านจากผู้โฆษณา ในปี 2017 บริษัทต้องเผชิญกับการโบกมือลาของผู้โฆษณาจำนวนมาก ที่พบว่าโฆษณาของตัวเองถูกเล่นในวิดีโอเนื้อหาสุดโต่งที่สนับสนุนการก่อการร้าย ตัวอย่างแบรนด์ใหญ่กลุ่มนี้คือ AT&T, Verizon, Walmart, Johnson & Johnson, JPMorgan Chase รวมถึงอีกหลายรายที่ตัดงบการใช้จ่ายโฆษณาออกไปชั่วคราว
แม้ว่าหลายรายจะกลับมาโฆษณาบน YouTube เมื่อเวลาผ่านไป แต่กรณีล่าสุดนี้อาจทำลายความไว้วางใจที่ YouTube สั่งสมไว้ก็ได้ ล่าสุดหุ้น Alphabet ลดฮวบ 1.11% มาอยู่ที่ 1,108.20 เหรียญเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
ที่มา: : The Street