วันนี้เจ้าของร้านอาหารในสหรัฐฯ จะไม่เพียงหวั่นใจกับบทความรีวิวร้านอาหารยอดแย่ใน Yelp เท่านั้น แต่จะต้องรักษามาตรฐานคุณภาพอาหารให้ดีอยู่เสมอเพราะกรมอนามัยนิวยอร์กประกาศใช้เครือข่ายสังคมนักรีวิวร้านอาหารอย่าง Yelp ในการหาเบาะแสร้านที่จำหน่ายอาหารและบริการที่ไม่มีคุณภาพ ถือเป็นการตอกย้ำว่าโซเชียลมีเดียมีอิทธิพลต่อสังคมโลกในหลายด้านอย่างชัดเจน
ที่ผ่านมา เจ้าของร้านอาหารมักมองเครือข่ายสังคมอย่าง Yelp เป็นเพียงเครื่องมือการตลาดที่จะช่วยให้ชาวออนไลน์รายอื่นได้รู้จักร้านในวงกว้างขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคมองว่า Yelp คือช่องทางในการหาข้อมูลร้านอาหารที่เชื่อใจได้เพราะเป็นการวิจารณ์ตรงไปตรงมาจากความเห็นผู้บริโภคด้วยกัน แต่วันนี้ Yelp กำลังขยับบทบาทขึ้นมาเป็นแหล่งข้อมูลขององค์กรผู้กำกับดูแลมาตรฐานร้านอาหารของสหรัฐฯ นั่นคือ NYC Department of Health หรือกรมอนามัยของเมืองนิวยอร์กซิตี้
NYC Department of Health (DOH) ระบุว่าได้เริ่มวิเคราะห์ข้อมูลจากบทความรีวิวร้านอาหารบน Yelp เพื่อหาเบาะแสร้านที่เข้าข่ายผิดมาตรฐานอาหารคุณภาพ โดยโครงการนี้เกิดขึ้นบนความร่วมมือระหว่าง Yelp และทีมวิจัยมหาวิทยาลัย Columbia University ซึ่งเริ่มชิมลางระบบนี้มานาน 9 เดือนในช่วงปี 2012-2013
การทดสอบระบบในช่วงนั้นมีการวิเคราะห์ข้อมูลบทคามรีวิวมากกว่า 3 แสนบทความ โดยเป็นการวิเคราะห์ผ่านระบบอัลกอริธึมด้วยคอมพิวเตอร์ จนพบความผิดปกติของร้านที่มีโอกาสเข้าข่ายผิดมาตรฐานมากกว่า 900 กรณี จากนั้นเจ้าหน้าที่จะลงมือตรวจสอบด้วยตัวเอง ซึ่งผลที่ได้คือการตรวจพบร้านอาหาร 3 แห่งที่ผิดมาตรฐานระดับร้ายแรง
DOH ยอมรับว่าการสุ่มตรวจร้านอาหารจาก Yelp นั้นมีขั้นตอนยุ่งยาก เพราะทีมงานต้องติดต่อผู้เขียนบทความรีวิวหลายคนก่อนจะลงมือสอบสวนจริง จุดนี้เพื่อกรองความผิดพลาดกรณีที่ผู้เขียนบทความรีวิวดำเนินการไปโดยไม่เป็นความจริง แต่ทั้งหมดถือว่าคุ้มค่าเพราะสามารถตรวจตราได้ทั่วถึงมากกว่าการรอคอยคำร้องเรียนของผู้บริโภค
นอกจาก Yelp รายงานระบุว่า DOH จะขยายผลเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลรีวิวร้านอาหารจากเครือข่ายสังคมอื่นด้วย ซึ่งคาดว่าจะทำให้การตรวจสอบมาตรฐานร้านอาหารทำได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น จุดนี้ทำให้ไม่เพียง DOH ของเมืองนิวยอร์กซิตี้ แต่องค์กรอื่นในหลายประเทศอาจจะนำแนวคิดนี้มาดำเนินการบ้าง ซึ่งถึงวันนั้น เราจะต้องมองเครือข่ายสังคมนักรีวิวร้านอาหารในมุมมองใหม่ที่มีอิทธิพลเหนือการตลาดแน่นอน
ที่มา: Eater