Site icon Thumbsup

Draw Something ครบ 1 ขวบ ยอดโหลดเกิน 100 ล้านครั้ง

draw-something-one-year

ปีที่แล้ว Draw Something ถูกพูดถึงอย่างมากทั้งในเมืองไทยและเมืองนอก ด้วยรูปแบบที่ให้ผู้เล่นได้วาดและทายคำ เลยทำให้ผู้เล่นติดไปแบบง่ายๆ แต่ไม่นานนักกระแสก็จางหายไปทันที รวมทั้งบริษัทผู้พัฒนาก็เป็น Startup อีกด้วย วันนี้ครบ 1 ปี เลยมีสถิติน่าสนใจที่เกิดขึ้นในระยะเวลาเพียง 1 มาให้ดูกันในรูปแบบ infographic

Draw Something นั้นเป็นแอพพลิเคชันเกมสไตล์วาดภาพเพื่อทายคำ ช่วงปีที่ผ่านมา Draw Something ประสบความสำเร็จอย่างร้อนแรงในเวลาข้ามคืน เพียง 7 สัปดาห์แรกของการเปิดตัว Draw Something สามารถทำยอดดาวน์โหลดมากกว่า 50 ล้านครั้ง ทำให้ยักษ์ใหญ่เกมออนไลน์อย่าง Zynga ให้ความสนใจ จนทำให้ควักเงินซื้อกิจการ Omgpop ในเดือนมีนาคมปี 2555

แม้จะไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่รายงานจากสื่อต่างชาติชี้ว่า Zynga ซื้อ Omgpop ด้วยมูลค่า 180 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยควบรวมทีมงานและซีอีโออย่าง Dan Porter เข้ามามีส่วนร่วมกับบริษัท

วันนี้ Porter ซึ่งมีตำแหน่งเป็นรองประธานอาวุโส และผู้จัดการทั่วไป Zynga ประจำนิวยอร์กซิตี้ ให้สัมภาษณ์ว่าสถานภาพการทำงานของ Omgpop ยังมีความสนุกสนานเช่นเดิม แต่บริษัทจะมีแหล่งทุนและแหล่งความรู้มากขึ้น สิ่งเหล่านี้ทำให้ Omgpop ไม่ได้เป็นสตาร์ทอัปธรรมดาอีกต่อไป

100 ล้านดาวน์โหลดที่ Draw Something ทำได้ในปีที่แล้ว ส่งผลให้ผู้ใช้วาดภาพมากถึง 1.1 หมื่นล้านภาพ ซึ่งหากคำนวณเวลาในการเล่นรวมของผู้ใช้ทั่วโลก (รวมระยะเวลาในการคิดและทายคำทั้งหมด) จะพบว่า Draw Something สามารถดึงเวลาของผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั่วโลกได้นานหลายพันปี

ก่อนหน้านี้ Draw Something สามารถขึ้นเป็นแอพพลิเคชันยอดนิยมอันดับ 1 ใน 84 ประเทศ โดยช่วงเวลาที่กระแสความนิยมเพิ่มขึ้นถึงขีดสุดคือช่วงฤดูใบไม้ผลิกลางปีที่ผ่านมา จุดนี้ข้อมูลระบุว่าผู้ใช้ Draw Something ลงมือวาดภาพมากกว่า 3,000 ภาพต่อวินาที

ไม่เพียงเกม Porter ระบุว่า Draw Something ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือนัดเดท รวมถึงการขอแต่งงานของคู่รักหลายคู่ จุดนี้มีการรายงานว่า คู่รัก 5 คู่ตอบรับหมั้นหมายกันผ่านการวาดภาพ

ทั้งหมดนี้ Porter ระบุว่าเกม Draw Something ยังไม่เสื่อมความนิยมหายไปไหน โดยปัจจุบัน ยังมีผู้คนอีกหลายล้านคนที่ลงมือวาดภาพและเล่นเกม Draw Something ทุกวัน ซึ่งทำให้ Draw Something ยังเป็น 1 ในโมบายล์โซเชียลเกมรายใหญ่ของโลกต่อไป

ที่มา: Mashable