การทำงานในยุคนี้จะเป็นแบบ Loutine หรือ Digital แบบร้อยเปอร์เซ็นต์คงไม่ได้อีกแล้ว ต้องรู้จักปรับตัวในการทำงานแบบ Hybrid เช่นเดียวกับวงการครีเอทีฟอย่าง Dream Riders ที่เรียกตัวเองว่าการทำงานแบบครีเอทีฟไฮบริดที่เน้นคุณภาพงาน ขายความเป็นไปได้ เพื่อให้ปรับการทำงานได้เหมาะสมตามยุคสมัย
นายสรรพาทิตย์ ทวีเจริญ หนึ่งในผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสร้างสรรค์ของ ดรีม ไรเดอร์ส ครีเอทีฟ คอมพานี กล่าวว่า บริษัทดำเนินงานมากว่า 20 ปีแล้ว ยังเป็นการทำงานด้านสื่อสารการตลาดแบบโลกใหม่ ที่เน้นความรวดเร็ว ยืดหยุ่นในทุกเรื่อง เพื่อเป็นที่ปรึกษาให้แบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หวังเป็น One stop service ให้แก่ลูกค้าได้
ทางด้านของ นางสาวชุติมณฑน์ จันเหมือน ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ดรีม ไรเดอร์ส ครีเอทีฟ คอมพานี กล่าวว่า “การบริหารงานแบบไฮบริดส่งผลให้รายได้ปี 2019 เพียงสองไตรมาสแรกพุ่งทะลุกว่า 50% มีสถิติการขายงานชนะ (pitching winning rate) สูงถึง 100% จาก 4 แบรนด์ใหญ่ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ปิดดีลพิชชิ่งงบโฆษณาจากหลากหลายบริษัทใหญ่ทั่วประเทศ อาทิ กลุ่มรถยนต์, กลุ่มประกันภัย, กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค, และกลุ่มธนาคาร ตั้งเป้ารายได้เติบโต 32% สวนกระแสธุรกิจซบเซา เชื่อไม่ใช่ขาลงเอเจนซี่ในประเทศไทย เพียงแค่ต้องปรับทัพการทำงานให้ตอบสนองพฤติกรรมลูกค้า และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปให้ได้”
นายสรรพาทิตย์ กล่าวเสริมว่า อุตสาหกรรมครีเอทีฟยังโตได้อีกและโตได้ดีด้วย เพียงแต่เราต้องเปลี่ยนเพื่อนำเกมส์และยืดหยุ่นให้ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้า ซึ่งแน่นอนว่าด้วยเทรนด์การทำงานในปัจจุบัน บวกกับการเข้ามาของเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปมาก
เราจำเป็นที่จะต้องปรับให้มีการคิดและทำงานที่คล่องตัวขึ้นทั้งในแง่ของโครงสร้างและวิธีการทำงานเพื่อที่จะวิ่งให้ทันกับความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภค และเราเชื่อว่า ไฮบริด ครีเอทีฟ คอมพานี อย่างเราคือคำตอบของการทำงานในโลกใหม่แบบนี้ เพราะการที่เป็นไฮบริดทำให้เราสามารถลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็นลงได้ และสามารถลดค่าใช้จ่ายของลูกค้าลงไปด้วยในที่สุด
อาทิ ลูกค้าบางองค์กรอาจจะมีทีมที่ทำงานในลักษณะที่เป็นเอเจนซี่โฆษณาอยู่ในตัวเอง และบ่อยครั้งที่จะงานที่มีกลยุทธ์อยู่แล้วมาให้เรา โดยสิ่งที่ต้องการก็คือให้เราในฐานะคนทำงาน หาครีเอทีฟเดียโซลูชั่นเพื่อดำเนินการได้เลย เพราะฉะนั้นเราต้องสามารถมองสิ่งเหล่านั้นให้ออก และสามารถที่จะมีความยืดหยุ่นพอที่จะเริ่มและต่องานตรงไหนก็ได้ เพื่อที่จะให้งานออกมามีประสิทธิภาพ”
ดังนั้น ความสำเร็จที่ได้มาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นอกจากจะอาศัยความรู้และประสบการณ์ที่มีมากว่า 20 ปีของผู้ก่อตั้ง ดรีม ไรเดอร์สยังมีทีมที่ดีอีกด้วย “แน่นอนว่าการจะเป็นบริษัทไฮบริดได้ เราก็ต้องการทีมที่มีความไฮบริดอย่างมากด้วย ดรีม ไรเดอร์ส ประกอบไปด้วยบุคลากรที่เต็มไปด้วยความสามารถและความสนใจที่หลากหลาย
อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงานสูง ทำงานได้หลายอย่าง กล้าทำ และทำได้ดี เหล่านี้จึงลดขั้นตอนการทำงานได้มาก ทำให้การติดต่อคุยงานไม่ขาดความต่อเนื่อง จึงสามารถปิดจบงานได้ในระยะเวลาที่กำหนด ตามโจทย์ที่ลูกค้าต้องการ เราจึงกล้าพูดว่างานของเรานั้นเป็นงานที่เป็นไอเดียสดใหม่ ที่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้จริง ตอบโจทย์ลูกค้า และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี การเป็น ไฮบริด ครีเอทีฟ คอมพานี จะกลายเป็นโมเดลใหม่ของการทำงานครีเอทีฟทุกประเภทในยุคนี้
นอกจากนี้ ดรีม ไรเดอร์ส ยังเป็นบริษัทที่อยู่ในเครือข่ายที่เรียกว่า R Independent ซึ่งจะประกอบไปด้วยกลุ่มบริษัทครีเอทีฟที่มีแนวคิดแบบไฮบริดทั่วโลกจำนวน 11 บริษัท ซึ่งช่วยให้เกิดการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และบุคลากรได้เพื่อให้ได้งานที่ทันกระแสโลกและทรงประสิทธิภาพอย่างสูงสุด