หลังประกาศเฟ้นหาผู้เข้าร่วมโครงการ Dtac Accelerate ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการจำนวนมาก ล่าสุดทางโครงการได้ประกาศเปิดตัวผู้เข้ารอบทั้ง 5 ทีมแล้วในวันนี้
จากจำนวนผู้สมัตรร่วมโครงการทั้งหมด 150 ทีม Andrew Kvalseth ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย Corporate Strategy and Business Innovation ได้เผยว่าทั้ง 5 ทีมนั้นถูกคัดเลือกจากเกณฑ์เดียวกันนั่นคือ ตัวบุคคลในทีม ผลิตภัณฑ์และแนวคิดของพวกเขาไปจนถึงตลาดของพวกเขาว่าพวกเขาจะสามารถเข้าสู่ตลาดได้อย่างไร โดย 5 ทีมผู้เข้ารอบโครงการ Dtac Accelerate นั้นถูกแบ่งเป็น 2 ประเภทด้วยกันคือ Acceleration และ Incubation
ทีมที่เข้ารอบสุดท้ายของการแข่งขันประเภท Accelaration นั้นมีทั้งหมด 3 ทีม ได้แก่
1) Anywhere to Claim – ที่มาพร้อมแอปพลิเคชันชื่อว่า Claim Di แอปพลิเคชันที่ช่วยลดขั้นตอนการเคลประกันรถยนต์ให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตรวจสภาพรถยนต์ อุบัติเหตุแบบมีคู่กรณี หรือไม่มีคู่กรณี เพียงแค่ผู้ใช้งานแอปพลิเคชันดังกล่าวถ่ายภาพสภาพความเสียหายบนรถของพวกเขาและอัพโหลดขึ้นบนแอปพลิเคชันดังกล่าว
2) Fastinflow – อดีตแชมป์โครงการ Dtac Accelerate เมื่อปีก่อน ที่มาพร้อมแอปพลิเคชันซึ่งช่วยให้นักการตลาดสามารถทำการวิจัยผู้บริโภคด้วยการตั้งคำถามให้ผู้บริโภคตอบคำถามผ่านแอปพลิเคชันแบบสั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทที่ใช้งานแอปพลิเคชันดังกล่าวมากถึง 50 รายแล้ว
นอกจากแอปพลิเคชัน Fastinflow ซึ่งเปิดโอกาสให้นักการตลาดสร้างคำถามผ่านแอปพลิเคชันได้แล้ว ล่าสุดทีม Fastinflow ยังได้เปิดตัวอีกหนึ่งแอปพลิเคชันชื่อ TIKKO ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคเข้ามาตอบคำถามของนักการตลาดจากแอปพลิเคชัน Fastinflow เพื่อแลกกับของรางวัลต่างๆ เช่น บัตรเติมเงินโทรศัพท์มือถือ บัตรชมภาพยนตร์
3) Piggipo – แอปพลิเคชันการจัดการค่าใช้จ่ายจากการใช้งานบัตรเครดิต ที่จะแจ้งทั้งยอดการใช้จ่าย กำหนดการจ่าย ซึ่งมาพร้อมลูกเล่นที่น่ารักด้วยคาแร็คเตอร์หมูสีเขียว ที่จะปรับเปลี่ยนอารมณ์ไปตามยอดการใช้จ่าย โดยผู้ใช้งานจะสามารถกำหนดยอดค่าใช้จ่ายสูงสุดรายเดือนของพวกเขา เมื่อพวกเขาใช้เงินจนใกล้ถึงกำหนดที่พวกเขาตั้งค่าไว้ หมูน้อยจะปรับเปลี่ยนเป็นหมูที่มีอารมณ์เศร้าหมองลง
ทีมที่เข้ารอบการแข่งขันประเภท Incubation นั้นมีด้วยกันทั้งหมด 2 ทีมได้แก่
1) DriveBot – ทีมที่มาพร้อมแอปพลิเคชันและอุปกรณ์ Hardware ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ผู้มีรถยนต์ในเรื่องของการดูแล และการตรวจสภาพรถของพวกเขา เพียงแค่เชื่อมต่ออุปกรณ์ของพวกเขาเข้ากับรถยนต์เท่านั้น ผู้ใช้งานแอพลิเคชันดังกล่าวจะได้รับข้อมูลสภาพของรถยนต์ผ่าน Bluetooth ได้ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันการเตือนเข้าของรถให้นำพาหนะของพวกเขาไปตรวจสภาพตามกำหนดอีกด้วย
2) Storylog – อีกหนึ่งทีมที่เคยเข้าร่วมโครงการ Dtac Accelerate มาก่อน ที่มาพร้อมแอปพลิเคชันประเภทโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เอาใจคนชอบเขียน ชอบระบาย ซึ่งจะมีฟังก์ชันที่คล้ายคลึงกับ Twitter คือ ผู้ใช้งานสามารถ Follow ผู้ใช้งานคนอื่นๆ มี Top stories และสามารถแชร์หรือคอมเมนต์บนเรื่องราวของผู้ใช้งานรายอื่นๆ ได้อีกด้วย
ผู้เข้ารอบโครงการ Dtac Accelerate ทั้ง 5 จะได้รับเงินสนับสนุนจำนวน 500,00 – 1,500,000 บาท พร้อมได้รับการอบรม intensive course เป็นระยะเวลา 90 วัน โดยในการอบรมผู้ใช้งานจะได้รับความรู้จาก Bill Reichert, Jeffrey Paine, Nir Eyal และ Niel Patel ผู้ชนะจากโครงการดังกล่าวจะได้รับการโอกาสในการเข้าร่วมโครงการ Blackbox Connect ที่ Silicon Valley เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ และยังจะได้โอกาสในการ pitch งานของพวกเขากับเหล่า VC ในประเทศสิงคโปร์และญี่ปุ่นอีกด้วย