กลุ่มบริษัทดัชมิลล์จับมือร้านโชห่วยทั่วไทยเปิดตัวแคมเปญ #ฝากร้าน ฝากท้อง ส่งผลิตภัณฑ์ยอดนิยม “ดัชมิลล์ ไวท์โกลด์มิลค์” และ “ดีมอลต์ ริชช็อกโกแลต” จับคู่กินกับขนมดังในท้องถิ่น ขยายโอกาสการจำหน่าย ช่วยสนับสนุนร้านค้าไทยในช่วงโควิด กระตุ้นธุรกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
สร้างการมีส่วนร่วมกับแบรนด์และขยายโอกาสการบริโภคผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเป้าหมาย ตั้งเป้าเพิ่มการจัดจำหน่ายในร้านโชห่วยโลคอลกลุ่มใหม่รวมกว่า 100,000 ร้าน และเพิ่มยอดขายได้มากกว่า 50% ตลอดแคมเปญ
คุณระวิวรรณ มหาคชาภรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มบริษัทดัชมิลล์ กล่าวว่า กลุ่มบริษัทดัชมิลล์ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมคุณภาพ ได้มุ่งมั่นผลิตนมและเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและมีรสชาติอร่อย เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพแข็งแรง โดยเฉพาะในสภาวการณ์ปัจจุบันที่เรากำลังเผชิญความท้าทายทางโรคระบาด และเศรษฐกิจ ซึ่งทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันช่วยผลักดันในหลายมิติ ซึ่งกลุ่มบริษัทดัชมิลล์ ในฐานะบริษัทของคนไทย เพื่อคนไทย ขอเป็นหนึ่งในกลไกที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและความแข็งแกร่งให้กับคนไทย
“เราต้อนรับปีใหม่ด้วยการตอกย้ำพันธกิจของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัวแคมเปญการตลาดแห่งปี #ฝากร้านฝากท้อง ซึ่งนับเป็นมิติใหม่แห่งการทำตลาดในช่วงการระบาดระลอกสองของโควิด-19 กลุ่มบริษัทดัชมิลล์สร้างสรรค์ไอเดียการตลาดและการขาย โดยนำกลยุทธ์ Partnership Strategy กับ Consumer Engagement มาผสานกับความเป็น Thainess ที่ดึงเอกลักษณ์เสน่ห์ความเป็นไทยจากร้านโชห่วยและขนมโลคอลชื่อดัง
มาสร้างสรรค์เทรนด์ให้การดื่มนมมีความสนุกและอร่อยคูณสอง โดยแคมเปญ #ฝากร้านฝากท้อง เป็นการจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจของเรา คือ ร้านโชห่วยทั่วประเทศ ด้วยการโปรโมทขนมดังในท้องถิ่นที่วางจำหน่ายในร้านโชห่วย ให้ทานร่วมกับนมดัชมิลล์ ไวท์โกลด์มิลค์ หรือ ดีมอลต์ ริชช็อกโกแลต ซึ่งเป็นรสชาติยอดนิยม”
ปัจจุบันจำนวนร้านโชห่วยในประเทศไทยมี 443,123 ร้าน ซึ่งนับเป็นสัดส่วนสูงสุดที่ 44.1% ตามด้วยร้านสะดวกซื้อ 31.8% และไฮเปอร์มาร์เก็ต 24.1%[1] ร้านโชห่วยจึงถือเป็นกลุ่มตลาดใหญ่ และมีผลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
แม้โควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนเลือกซื้อสินค้าในร้านโชห่วยใกล้บ้านมากขึ้น เพราะกังวลเรื่องการเดินทาง แต่ก็มีร้านโชห่วยหลายรายได้รับผลกระทบ และยังต้องปรับตัวสู่ยุคที่ผู้บริโภคหันมาช้อปออนไลน์มากขึ้น ดัชมิลล์และดีมอลต์ แบรนด์นมของคนไทย ที่ได้รับการสนับสนุนจากร้านโชห่วยไทยมานาน จึงอยากสนับสนุนพวกเขาด้วยการเปิดพื้นที่โฆษณา ให้แต่ละร้านได้มาขายขนมอื่นๆ ในร้านที่ทานคู่กับนมดัชมิลล์ ไวท์โกลด์มิลค์ หรือ ดีมอลต์ ริชช็อกโกแลต
ซึ่งร้านโชห่วยแต่ละแห่งนั้นมีเสน่ห์ที่แตกต่างกัน และอยู่กับสังคมไทยมานานทำให้เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์สำคัญของประเทศไทย นอกจากรูปแบบที่โดดเด่นแตกต่างกันไปแล้ว ร้านโชห่วยยังมีขนมในท้องถิ่นที่อร่อยและสะท้อนถึงตัวตนของแต่ละพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสาลี่ สุพรรณ, ขนมหม้อแกง เพชรบุรี, กะหรี่พัฟ สระบุรี, ข้าวหลาม หนองมน, ขนมเค้กเมืองตรัง, โรตีสายไหม อยุธยา, ขนมผิง นครปฐม, ขนมงา แม่ฮ่องสอน, ขนมเทียนเสวย อุตรดิตถ์, ขนมกง ชัยนาท, ขนมชั้น พิจิตร, มะขามแปรรูป เพชรบูรณ์, เค้กปลาช่อน สิงห์บุรี, กระยาสารท ฉะเชิงเทรา, ขนมลูกหยี ปัตตานี, ขนมเต้าส้อ พังงา หรือ บุหงาบุดะ สตูล
เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ในวงกว้างของแคมเปญ #ฝากร้านฝากท้อง จึงมีการโปรโมทแคมเปญนี้หลายช่องทาง เริ่มด้วยการเปิดตัวด้วยออนไลน์ฟิล์มโปรโมทแคมเปญ และเปิดโอกาสให้ร้านโชห่วยส่งไอเดียของร้านตนเองมาว่า ดื่มนมดัชมิลล์ ไวท์โกลด์มิลค์ หรือ ดีมอลต์ ริชช็อกโกแลต คู่กับขนมอะไรในร้านแล้วอร่อย ผ่านวิดีโอคลิป และทางดัชมิลล์จะคัดเลือกคัดร้านค้ามา 40 ร้าน
เพื่อทำโฆษณาและโปรโมทผ่านซีรีส์ออนไลน์ฟิล์มให้ฟรีต่อเนื่องตลอดทั้งปี การใช้สื่อโฆษณาออนไลน์ สื่อเอ้าท์ออฟโฮม การประชาสัมพันธ์ ดังนั้นแคมเปญนี้จึงไม่ใช่แค่การช่วยเหลือแต่เป็นการจับมือกันไปสู่โอกาสใหม่ๆ ที่จะทำให้ทั้งดัชมิลล์ ดีมอลต์ และร้านโชห่วยไทยเติบโตไปข้างหน้าพร้อมๆ กันอย่างยั่งยืน โดยได้เตรียมงบประมาณสำหรับแคมเปญนี้ไว้ 20 ล้านบาท
แคมเปญนี้ จะสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างผลิตภัณฑ์กับผู้บริโภคและร้านโชห่วย เป็นการกระตุ้นให้ร้านค้าและผู้บริโภคมีไอเดียสร้างสรรค์ในการเลือกดัชมิลล์ ไวท์โกลด์มิลค์ หรือ ดีมอลต์ ริชช็อกโกแลต จับคู่กินกับขนมดังท้องถิ่นในร้านโชห่วยในภูมิภาคต่างๆ เพื่อสรรหาการจับคู่เมนูอร่อยที่ลงตัวในสไตล์ของแต่ละคน และได้คุณค่าโภชนาการจากนมคุณภาพสูงและความอร่อยของขนมนานาชนิด
โดยมั่นใจว่าหลังจากการเปิดตัวแคมเปญ #ฝากร้านฝากท้อง จะสร้างความสนุก ความคิดสร้างสรรค์ ความหลากหลาย และกระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวไทยดื่มนมมากขึ้น ส่วนในฝั่งร้านค้าจะเป็นการช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านโชห่วยทั่วไทย โดยเฉพาะช่วงการระบาดของโควิด-19 นี้ ทั้งยังช่วยสร้างการเติบโตระยะยาวให้กับร้าน โชห่วย และผู้ผลิตขนมในท้องถิ่นอีกด้วย
ซึ่งเราตั้งเป้าว่าจะขยายการจัดจำหน่ายในร้านโชห่วยและร้านขนมโลคอลกลุ่มใหม่กว่า 100,000 ร้าน และเพิ่มยอดขายของดัชมิลล์ ไวท์โกลด์มิลค์ และ ดีมอลต์ ริชช็อกโกแลต ได้มากกว่า 50% ตลอดระยะเวลาแคมเปญ