สถานการณ์ Covid-19 ในตอนนี้เหมือนกับด่านพิสูจน์ความแข็งแกร่งของหลายธุรกิจ เพราะการประกาศควบคุมช่วงเวลาเปิดปิดเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรค ส่งผลให้ธุรกิจรายย่อยหลายอาจต้องปิดตัวลง ทั้งร้านอาหารและเครื่องดื่ม แฟชั่น เครื่องสำอางค์ หรือแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่อย่างห้างสรรพสินค้า ก็ได้รับผลกระทบโดยตรง
ซ้ำร้ายบางธุรกิจรายได้เหลือเพียง 0 ด้วยซ้ำ แต่ไม่ว่าจะร้ายแรงแค่ไหน จะต้องมีธุรกิจที่กลับเติบโตขึ้นมา หรือเรียกว่าสินค้าที่ได้รับความนิยมในช่วงนั้นขึ้นมา
E-Commerce ทางออกที่ดีที่สุดในช่วงโควิด-19
แน่นอนว่าช่องทางการขายออนไลน์คือทางออกที่ดีที่สุด เพราะการที่คนไม่สามารถออกไปไหนได้แต่ความต้องการใช้ชีวิตยังอยู่ ทำให้มีแนวโน้มว่าคนไทยจะซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งแหล่งรวมร้านค้ามากที่สุดก็คือแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Lazada Shopee JD Central
ซึ่งในช่วงโควิด-19 นี้ ยอดขายบนแพลตฟอร์มเพิ่มสูงขึ้นกว่า 20% รวมถึงร้านค้ามีจำนวนมากขึ้น และรายได้ของร้านที่ขายดีเติบโตกว่า 30%
การที่จะบอกว่า E- commerce เป็นช่องทางขายที่ดีที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่แค่ยอดขายโตเท่านั้น แต่รวมถึงการประหยัดต้นทุนทั้ง ค่าเช่าพื้นที่ ค่าน้ำค่าไฟ ค่าแรงงาน ลดลงไปได้เยอะจากหน้าร้าน แถมการเปิดร้านในแพลตฟอร์มก็ไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย
ที่สำคัญคือทางแพลตฟอร์มเองก็มีแคมเปญโปรโมทร้านค้าให้ด้วย ทำให้ยิ่งง่ายกว่าการต้องมีหน้าร้านของตัวเองอีก หากจะต้องทำกลยุทธิ์สู้โควิด-19 ช่องทาง E- commerce คือทางออกที่ดีที่ควรทำเป็นอันดับแรกๆ
จะขายอะไรดีถึงมีรายได้
จะขายสินค้าอะไรดีก็เริ่มต้นจากลูกค้าอยากจะได้อะไร หรือหากมีสินค้าอยู่แล้วก็อยากให้รีเลทกับเหตุการณ์ในช่วงนี้ เช่น เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ หน้ากากอนามัย หรืออุปกรณ์ทำความสะอาด คือสินค้าแรกๆ ที่ได้รับความต้องการสูงมาก
แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือหากไล่เรียงพฤติกรรมของคนในช่วงนี้ มีอีกหลายสินค้าที่น่าสนใจคือ การที่คนส่วนใหญ่ต้องอยู่บ้าน ทำให้ใช้เวลาในบ้านมากขึ้น มีแนวโน้มจะตกแต่งบ้านมากขึ้นอีกเยอะ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องครัว ต้นไม้ สิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้การอยู่บ้านสมบูรณ์มากขึ้นโดยที่ไม่ต้องออกไปไหน
ตลาด E-commerce เติบโตจนฉุดไม่อยู่
จากการที่คน Work from home เยอะรวมถึงต้องใช้เวลาอยู่ที่บ้านตลอดทั้งวัน ทำให้เกิดอาการเหมือนได้หยุดตลอดเวลา ตลาดขายสินค้าออนไลน์จึงเติบโตขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ สังเกตได้จากการปรับตัวของหลายแบรนด์ที่เริ่มทำแคมเปญ Live บนแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อให้สินค้าถูกกระจายออกไปได้เยอะที่สุด
หรือจะเป็นการจัดโปรค่าส่งฟรีเมื่อสั่งขั้นต่ำ 99 บาท ยิ่งกระตุ้นให้คนอยากจะซื้อของเข้าไปอีก ซึ่งจากสถานการณ์นี้มีแนวโน้มว่าจะอยู่กันไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน เป็นช่วงเวลาที่มากพอที่จะให้หลายแบรนด์ปรับตัวมาขายออนไลน์หรือบน E- commerce มากขึ้นอีก
คาดว่า E-commerce จะเติบโตขึ้นไปได้มากกว่านี้ และยังมีแคมเปญวันสำคัญช่วงสงกรานต์ที่จะกระตุ้นให้คนใช้จ่ายบนออนไลน์มากขึ้นอีก การขายช่องทางนี้นอกจากจะมีลูกค้าพร้อมซื้อสินค้าอยู่เยอะแล้ว E-commerce ยังมีแคมเปญช่วงโปรโมทอีกเยอะด้วย หากแบรนด์ไหนกำลังหาทางออกของธุรกิจลองใช้ช่องทาง E-commerce มาเพิ่มโอกาสการขายใหม่ๆ ก่อน เพราะค่อนข้างตอบโจทย์ในช่วงนี้มากที่สุดค่ะ