จองมงกุฏในตำแหน่งผู้นำตลาดเกมไว้ได้เลย สำหรับยักษ์ใหญ่ในวงการเกมสำหรับ “Electronic Arts” หรือที่เราเรียกกันติดปากว่าค่าย “EA” ซึ่งล่าสุดพวกเขาได้ทำการซื้อกิจการของค่ายเกม Casual ที่ถือได้ว่าเป็นเจ้าใหญ่ที่สุดอีกค่ายก็ว่าได้ นั่นก็คือ “PopCap” ซึ่งมีเกมดังๆ ที่เรารู้จักกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Bejeweled, Plants vs Zombie หรือ Zuma เป็นต้น แต่เป้าหมายในการเข้าซื้อครั้งนี้ต่างหากที่เป็นประเด็นว่า “ทำไม???” ต้องเป็น PopCap ด้วย…
โดยจำนวนมูลค่าในการซื้อกิจการของ PopCap ครั้งนี้ คิดเป็นเม็ดเงินกว่า 750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ? (ราว ?2.25 หมื่นล้านบาท) โดยทาง EA จ่ายเงินสดไปจำนวน 650 ล้านเหรียญ (ราว 1.95 หมื่นล้านบาท) และเป็นหุ้นกลับไปให้ทาง PopCap รวมมูลค่าประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 3 พันล้านบาท) อย่างไรก็ตามก็มีสัญญาพ่วงท้ายที่จะทำให้ PopCap ได้รับเงินอีก 550 ล้านเหรียญศหรัฐฯ? (ราว 1.65 หมื่นล้านบาท) หากว่าทาง PopCap สามารถทำตามเป้าหมายที่ EA กำหนดไว้ให้ (ซึ่งไม่ได้มีรายละเอียดบอกไว้) เมื่อถึงช่วงสิ้นปี 2013 แถม EA ยังใจป้ำ แจกเงินโบนัสให้อีก 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอีกสี่ปีถัดไปด้วย
โดย?John Riccitiello ซึ่งเป็นประธานกรรมการฝ่ายบริหารของทาง EA ได้ออกมากล่าวถึงเป้าหมายและความคาดหวัง ที่จะการสร้างธุรกิจดิจิตอลที่มีมูลค่ากว่าหนึ่งพันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 3 หมื่นล้านบาท) ในช่วงเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้
แต่เป้าหมายที่แท้จริงของการเข้าซื้อกิจการของ PopCap ในครั้งนี้นั้น ไม่ได้มีเพียงนัยสำคัญเพียงเป้าหมายระยะสั้นๆ ของทาง EA เท่านั้น แต่สิ่งที่ดูมีความชัดเจนและน่าจะเป็นเป้าหมายของพวกเขาคือ การเป็นผู้นำในตลาดเกม “Social Gaming” นั่นเอง
ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2009 EA ได้เข้าซื้อกิจการของ Playfish ซึ่งในขณะนั้นเป็นเบอร์ 2 ในวงการเกมบนโลกออนไลน์ เป็นรองแค่เพียง Zynga เจ้าเดียวเท่านั้น รวมถึงการเข้าซื้อ Ohai บริษัทที่ทำเกมประเภท Social Gaming อีกหนึ่งราย นั่นแสดงให้เห็นถึงแนวทางของ EA ได้อย่างชัดเจน
นอกจากนี้รายได้กว่าร้อยล้านเหรียญเมื่อปีก่อนของ PopCap ยิ่งเป็นสิ่งยืนยันว่า พวกเขาไม่สามารถทิ้งตลาด Social Gaming ได้แน่ๆ เพราะตลาดตรงนี้มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในทุกๆ ปี และแน่นอนว่าคู่แข่งสำคัญของพวกเขาก็คงไม่พ้น Zynga ที่มี FarmVille และ Mafia Wars เป็นไพ่ตายอยู่
หาก EA สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดในส่วนของ Social Gaming ได้เมื่อไร นั่นจะทำให้พวกเขากลายเป็นบริษัทเกมที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก โดยมีอาณาเขตกว้างไปบนทุกๆ แพลตฟอร์มเลยทีเดียวล่ะครับ…
ที่มา: GigaOm