Site icon Thumbsup

อะไรจะเกิดขึ้นสำหรับนักการตลาด หลัง Elon musk เทคโอเวอร์ Twitter

ตั้งแต่เข้าไปถือหุ้นใน Twitter เราจะเห็น Elon Musk จะจริงจังกับการเขย่าแพลตฟอร์ม Twitter อย่างมาก ตั้งแต่การทวีตข้อความจำนวนมากเกี่ยวกับที่ว่าเขาได้บรรลุข้อตกลงในการซื้อแอปโซเชียลมีเดียในราคาประมาณ 44 พันล้านดอลลาร์

ถือว่าเป็นหนึ่งในข้อตกลงที่สำคัญในประวัติศาสตร์เทคโนโลยี รวมทั้งการทดสอบว่าแบรนด์ต่างๆ คิดเห็นอย่างไรในการทำคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดีย

ในการแถลงข่าวที่ประกาศแผนการ Elon Musk เขาต้องการที่จะดูแลเกี่ยวกับคำพูดต่างๆ บนแพลตฟอร์มและให้ความสำคัญกับบัญชีและการโต้ตอบที่เน้นด้านความถูกต้องมากยิ่งขึ้น

“การพูดโดยเสรี เป็นรากฐานของระบอบประชาธิปไตย และ Twitter เป็นศูนย์กลางของโลกดิจิทัล ที่มีการโต้เถียงกันเรื่องสำคัญต่ออนาคตอยู่บ่อยครั้ง” Musk กล่าวในแถลงการณ์

“ผมต้องการทำให้ Twitter ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยการเพิ่มคุณสมบัติใหม่ ทำให้อัลกอริทึมเป็นโอเพนซอร์สเพื่อเพิ่มความไว้วางใจ ลดสแปมบอท และรับรองความถูกต้องของทุกคน”

และแผนงานในอนาคตที่ยังไม่ออกมาเกี่ยวกับรูปแบบโฆษณาบนทวิตเตอร์เป็นสิ่งที่นักการตลาดยังคงกังวล

ซึ่งก่อนหน้านี้ Twitter ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนทางวาทกรรมเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งต่อไปอาจผลักดันให้แบรนด์ถึงทางตันเมื่อพวกเขาไม่มีทางเลือกมากในการทำคอนเทนต์ต่างๆ บนแพลตฟอร์มนี้

อีกเหตุผลหนึ่งมาจาก รายได้จากโฆษณาปีนี้ของ TikTok เติบโตเพิ่มขึ้นสามเท่า เป็น 11.64 พันล้านดอลลาร์ แซงหน้า Twitter และ Snapchat รวมกัน

Mike Proulx ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ Forrester  ระบุว่า “หาก Elon ตัดสินใจที่จะผ่อนคลายนโยบายการควบคุมเนื้อหาต่างๆ เขาจะทำให้ค่าโฆษณาบน Twitter ตกอยู่ในความเสี่ยง”

ทางด้านนักวิเคราะห์จาก Kelsey Chicering เขียนไว้ในบล็อกโพสต์ว่า “แบรนด์ต่างๆ เริ่มตระหนักมากขึ้นถึงเนื้อหาที่มีความเสี่ยงหรือการบิดเบือนข้อมูล ดังนั้นพวกเขาจึงอาจนำเงินดอลลาร์ไปใช้กับช่องทางอื่น ที่มีมาตรการด้านความปลอดภัยมากขึ้น”

อย่างไรก็ตาม แบรนด์ต่างๆ ก็อาจได้รับประโยชน์จากการเข้าซื้อกิจการของมัสก์ เพราะอาจมีปรับปรุงการนำเสนอโฆษณาที่เปิดกว้างมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ยังมีหลายแบรนด์ในธุรกิจที่ลงโฆษณากับ Twitter ออกมาบอกว่า ไม่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลงอะไร อย่างน้อยแผนการปรับเปลี่ยนโฆษณาในระยะสั้น ยังต้องมีต่อไปเพื่อให้ธุรกิจของพวกเขายังเดินต่อไปได้

 

ที่มา : marketingdive.com