สำหรับนักการตลาดที่ใช้ Email Marketing นี่ถือเป็นข่าวดีอย่างมาก จากรายงานของ Direct Marketing Association ผล ROI ของการทำ Email Marketing นั้นประเมินได้ถึง 40 เหรียญสหรัฐฯ (1,280 บาท) ต่อ 1 เหรียญสหรัฐฯ (32 บาท) ซึ่งถือว่าเป็นยอด ROI ที่สูงกว่าช่องทางการทำการตลาดอื่นๆ อย่างมาก
แสดงให้เห็นว่าการตลาดแบบ Email Marketing ยังคงมีบทบาทที่สำคัญต่อการทำการตลาดอย่างยิ่ง แต่อย่างไรก็ตามการทำ Email Marketing ของนักการตลาดบางส่วนในปัจจุบันนั้นยังคงมีลักษณะเหมือนจดหมายข่าวแบบเดิมๆ ที่มีเนื้อหายาวมาก ไฟล์ก็มีขนาดใหญ่ ทำให้ยอดการเข้าถึงต่ำ ทำให้นักการตลาดสูญเสียพลังงานในการสื่อสารเป็นอย่างมาก แต่กลับได้ผลตอบรับต่ำกว่าความพยายามที่ให้ไป
ถ้าคุณกำลังถอดใจกับการทำ Email Marketing คุณลองปรับเนื้อหาของคุณให้เข้ากับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคดังนี้ดูสิคะ
1. คุณต้องปรับเนื้อหาให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่มีความสนใจในสิ่งต่างๆสั้นลง โดยพวกเขาจะสนใจสิ่งต่างๆ ในระยะเวลาเพียง 8 วินาทีเท่านั้น
2. ปรับเนื้อหาให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้บริโภคที่ปัจจุบันมีแนวโน้มว่าจะทำสิ่งต่างๆ หลายๆ อย่างพร้อมกัน ฉะนั้นเนื้อหาเหล่านั้นต้องเป็นเนื้อหาที่พวกเขาสามารถทำความเข้าใจได้ง่าย แม้จะแค่ส่องสายตาผ่านเท่านั้น
3. ผู้บริโภคส่วนมากในปัจจุบันมีแนวโน้มที่เปิดอีเมลอ่านบนอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเช่น สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตกันมากขึ้น ฉะนั้นอีเมลนั้นควรปรับให้มีความเป็น Mobile Friendly มากขึ้น
Email Marketing ยังไม่หมดหวังซะทีเดียวเพราะผู้คนในปัจจุบันส่วนมากใช้เวลามากถึง 2.6 ชม. ต่อวันในการเปิดอีเมลจาก inbox ของพวกเขา โดย 58% เผยว่าการเช็คอีเมลนั้นเป็นสิ่งแรกๆ ที่พวกเขาทำหลังตื่นขึ้น และอีเมลยังคงเป็นหนึ่งในช่องทางที่ผู้บริโภคนิยมรับข่าวสารจากแบรนด์ต่างๆ ที่พวกเขาชื่นชอบอีกด้วย พฤติกรรมที่ค่อนข้างเป็นแพทเทิร์นของผู้บริโภคเหล่านี้เองจึงทำให้ Email Marketing ยังคงเป็นช่องทางการสื่อสารทางการตลาดที่ยังทรงอิทธิพลอยู่ในทุกวันนี้
นอกจากนี้ยังมีเทคนิคการสร้างเนื้อหาบนอีเมลเพื่อให้ผู้อ่านสนใจในเนื้อหานั้นๆ ของคุณมากขึ้นอีกด้วย นั่นคือ
1. สร้างเนื้อหาให้น่าสนใจ – เพราะหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ผ้บริโภคตัดสินใจสมัครรับข่าวสารจากคุณนั้นคือพวกเขาต้องการรับการแจ้งข่าวสิ่งที่น่าสนใจ อย่างเช่น คูปอง ข่าวสาร หรือบางครั้งพวกเขาต้องการแค่เพียงได้สื่อสารกับแบรนด์ของคุณเท่านั้น ฉะนั้นสิ่งที่นักการตลาดต้องทำคือแทรกเนื้อหาที่แสดงภาพลักษณ์ หรือเล่าความเป็นมาของแบรนด์คุณในทุกอีเมลที่คุณส่งถึงพวกเขา และทำให้พวกเขานึกได้ว่าพวกเขาเมีความเชื่อมโยงอย่างไรกับแบรนด์ของคุณเป็นอย่างแรก
2. ทำให้เนื้อหาเหล่านั้นเข้าใจได้ง่าย – ภาพ สามารถทำให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาต่างๆ ได้ง่ายขึ้นหลายเท่าตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ภาพที่เข้ากับบทความของคุณ ประกอบกับการใส่ภาพในตำแหน่งภาพที่ทำให้การอ่านและการทำความเข้าใจเนื้อความต่างๆ นั้นง่ายขึ้น
3. ในการส่งอีเมลแต่ละฉบับนั้น ต้องมีจุดประสงค์เพียงอย่างเดียว – แม้มันจะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นที่จะสร้างอีเมลซักฉบับที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมาก แต่การกระทำดังกล่าวนั้นกลับทำให้ผู้บริโภคบางคนรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะหาจุดเชื่อมโยงกับตัวของพวกเขา
ฉะนั้นคุณต้องใช้เครื่องมือการทำการตลาดทาง Email Marketing สมัยใหม่ให้เป็นประโยชน์ ในการจำแนกกลุ่มผู้รับสารของคุณเป็นกลุ่มๆ เพื่อสร้างเนื้อหาให้เหมาะสมกับพวกเขาให้ได้มากที่สุด โดยการสร้างเนื้อหาเหล่านั้นคุณต้องคำนึงถึงสิ่งที่คุณต้องการให้พวกเขาทำหรือรับรู้หลังได้อ่านเนื้อความบนอีเมลของคุณอย่างสม่ำเสมอ อย่างเช่น การซื้อสินค้า, การเข้าถึงเว็บไซต์ ไปจนถึงการแถลงการณ์ประเด็นอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ของคุณ
4. ทำให้อีเมลเหล่านั้นสามารถอ่านได้ง่ายแม้จะอ่านบนสมาร์ทโฟน -เพราะมีผู้บริโภคมากถึง 80% ที่เผยว่าพวกเขาจะลบอีเมลเหล่านั้นออกจากกล่องจดหมายเข้าในทันทีเมื่อพวกเขาไม่สามารถอ่านเนื้อความเหล่านั้นได้ นอกจากนี้ 1 ใน 3 ของพวกเขายังเผยว่าพวกเขาจะยกเลิกการรับข่าวสารจากแบรนด์นั้นๆ ในทันทีอีกด้วย ฉะนั้นข้อนี้จึงเป็นสิ่งที่นักการตลาดต้องให้ความใส่ใจ และต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพื่อไม่ให้ศูนย์เสียการกลุ่มรับสารของแบรนด์
ที่มา : Entreprenuer