ถึงแม้ว่าช่วงหลัง ข่าวคราวการเติบโตของเครือข่ายสังคมและข้อความแชตจะทำให้วงการอีเมลดูเงียบเหงาและไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวมาให้ติดตามกันมากนัก แต่การสำรวจล่าสุดยืนยันว่ากระแสการใช้งานอีเมลนั้นไม่ลดลงเลย โดยเฉพาะการสำรวจของเว็บไซต์ Litmus.com ที่พบว่าอีเมลยังคงเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอยู่ในอันดับ 1 ซึ่งมีจำนวนการใช้งานมากถึง 85% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมดในปี 2012 นำหน้าการใช้งาน Social Media ที่มีอยู่ราว 61%
การสำรวจของ Litmus แสดงให้เห็นถึงความนิยมของการใช้งานอีเมลซึ่งยังคงเป็นช่องทางหลักที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ในการติดต่อทั้งในด้านธุรกิจและเรื่องทั่วไป โดยในด้านการทำธุรกิจอีเมลถูกใช้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ซึ่งมีจำนวนการใช้งานราว 44% แซงหน้าการใช้งานผ่านเว็บไซต์บริษัท 43% Search Engine 6% และ Facebook 4%
ส่วนการติดต่อในเรื่องทั่วไปรวมไปถึงเรื่องส่วนตัวก็พบว่าอีเมลยังคงเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมในการติดต่อกับครอบครัวและคนใกล้ชิดมากที่สุด โดยมีจำนวนการใช้งานสูงถึง 63% รองลงมาเป็นการใช้งานผ่าน Facebook 33% และโทรศัพท์ 29%
และนอกจากการใช้เพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อแล้ว ในส่วนของการทำการตลาดอีเมลยังเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มในส่วนของ ROI (Return On Investment), CTR (Click Through Rate) และ Conversion Rate ได้มากกว่า เมื่อเทียบกับช่องทางอื่น เช่น การใช้ป้ายโฆษณาหรือแม้แต่การใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง Facebook และ Twitter ซึ่งสถิติทั้งหมดถูกเปรียบเทียบให้เห็นถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจนจาก Infographic ด้านล่างนี้
ในส่วนของการใช้งานอีเมล พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงจากการใช้งานผ่านคอมพิวเตอร์ในรูปแบบเดิมมาเป็นการใช้งานบนมือถือและแท็บเล็ตเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปี 2012 ที่ผ่านมามีจำนวนผู้ใช้งานอีเมลบนมือถือเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนกว่า 43% โดยในแต่ละวันพบว่ามีการใช้งานรับส่งอีเมลบนมือถือสูงถึง 60% หรือราว 80% ภายในเวลา 1 สัปดาห์ ส่วนการใช้งานอีเมลบนแท็บเล็ตก็ไม่น้อยหน้า พบว่ามีการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 44% ต่อวันหรือกว่า 65% ภายใน 1 สัปดาห์
ในอนาคตมีการประเมินว่าอีเมลจะยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องจนทำสถิติผู้ใช้งานเพิ่มสูงถึง 3,800 ล้านคนในปี 2014 ส่วนในมุมมองนักธุรกิจและนักการตลาดส่วนใหญ่ก็เชื่อว่าอีเมลจะยังคงเป็นกลยุทธ์ในการทำการตลาดที่ประสิทธิภาพ โดยนักการตลาดจำนวนกว่าครึ่ง (56%) มีแผนที่จะเพิ่มเงินลงทุนในส่วนของอีเมลมาร์เก็ตติง เพื่อใช้เป็นช่องทางหลักในการทำตลาดปีนี้ และภายใน 3 ปีข้างหน้า (2016) คาดว่าจะมีเงินลงทุนในส่วนอีเมลมาร์เก็ตติงมูลค่าสูงถึง 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
ที่มา: PSFK