ในโลกของการทำงานไม่ว่าจะองค์กรเล็กหรือใหญ่ เราทุกคนต่างต้องทำงานร่วมกับคนอื่นๆ ทักษะ Empathy และ Sympathy เลยถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงมากขึ้นในปัจจุบัน
Empathy แปลตามพจนานุกรมคือ ความร่วมรู้สึก หรือความสามารถในการเอาความรู้สึกคนอื่นมาอยู่ในใจเราราวกับว่าเราเป็นคนประสบด้วยตัวเอง แต่พูดให้เข้าใจง่ายๆ คือ ความเห็นอกเห็นใจทั้งในด้านความคิด มุมมอง และความรู้สึก โดยที่ไม่ได้เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง แต่รับฟังความคิดและปัญหาจากมุมมองของผู้อื่น เพื่อให้เข้าใจกันมากขึ้น
บทความของ Psychology Today ได้ระบุคุณสมบัติของ Empathy ต้องมีดังนี้
- ความสามารถในการมองเห็นโลกในมุมที่คนอื่นเห็น
- การไม่ตัดสินคนอื่น
- การเข้าใจความรู้สึกกับผู้อื่น
- การสื่อสารความเข้าใจของคุณเกี่ยวกับความรู้สึกของบุคคลนั้น
ทักษะความเห็นอกเห็นใจถูกนำไปปรับใช้กับการทำงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการประชุมที่มีความคิดเห็นหลากหลาย งานบริการที่ต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ตรงจุด งานบริหารที่หัวหน้ากับลูกน้องเข้าใจกันมากขึ้นเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ
Empathy vs Sympathy
แตกต่างจาก Sympathy ที่หมายถึงความสงสารเห็นใจ ความสามารถในการรับรู้ความรู้สึกแย่หรือปัญหาของผู้อื่น แต่ไม่ได้เข้าใจหรือมองหาวิธีแก้ปัญหาที่แท้จริง ยกตัวอย่างเช่น การรับฟังปัญหาผู้อื่นและอยากให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่ไม่สามารถอธิบายถึงความรู้สึกนึกคิดของอีกฝ่ายได้
อย่างไรก็ตาม Sympathy ไม่ใช่สิ่งที่แย่ การรับรู้ความรู้สึกของผู้อื่นก็เป็นสิ่งสำคัญ แต่เราควรใช้ร่วมกันกับ Empathy เพราะเมื่อรวมกันแล้ว การรับฟังและมีความรู้สึกร่วมกับผู้อื่นจะช่วยให้เข้าใจผู้อื่นได้ดีมากขึ้น และช่วยให้ทำงานหาทางออกร่วมกันได้อย่างสมเหตุสมผล
สุดท้ายสิ่งที่ควรระวังคือ การเห็นอกเห็นใจไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอารมณ์ของผู้อื่น เพราะบางครั้งการมีอารมณ์ร่วมมากเกินไปก็ทำให้ผู้รับฟังรู้สึกเศร้าหรือหนักใจไปด้วย
ที่มา