เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2019 ทีมงาน thumbsup ได้ทำการสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาตลอดทั้งปี ของภาพรวมวงการบันเทิงปี 2019 และคาดการณ์ปี 2020 รวมทั้งได้สัมภาษณ์ คุณแจ็คเกอรีน พัฒนะชัย อดิเรก นักข่าวบันเทิงของไทยรัฐทีวี ที่อยู่ในวงการมานานกว่า 20 ปี รวมทั้งมีการคาดการณ์วงการบันเทิงในปี 2020 ว่าจะมีเรื่องราวใดน่าสนใจจะเกิดขึ้นบ้าง
สรุปไฮไลต์บทความ
- ภาพรวมวงการบันเทิง 2019 ซบเซาเหมือนสภาพเศรษฐกิจ หลายบริษัทปิดตัว ทำให้การจ้างงานดาราออกอีเว้นท์ไม่คึกคักแบบเดิม และการเลิกรา อาการป่วยคนบันเทิง ยังคงเป็นที่สนใจมาก
- ไอดอลหน้าใหม่เกิดขึ้นเพียบ วงการนี้ไม่ได้มีแค่ BNK48 แต่มีไอดอลหน้าใหม่เกิดขึ้นกว่า 40 วงทั่วประเทศที่ได้รับความสนใจจากวัยรุ่นและวัยโซเชียล ทำให้ไอดอลกลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่เด็กรุ่นใหม่อยากเป็น
- รักติดไซเรน กลายเป็นเพลงชาติสำหรับเด็กรุ่นใหม่ ที่ไม่ว่าใครนำไปร้อง-เต้น โคฟเวอร์ก็เกิดยอดการรับชมแต่หลักล้านวิวทั้งนั้น และยังติดหูให้ร้องกันได้ทุกเพศ ทุกวัย
- ปี 2020 การกลับมาของซุปตาร์รุ่นใหญ่ ทั้งผลงานละครของอั้ม พัชราภา และคอนเสิร์ตใหญ่ของเบิร์ด ธงไชย ยังเป็นที่รอคอยของเหล่าแฟนที่ติดตามมายาวนาน
ภาพรวมวงการบันเทิง ปี 2019 มีอะไรที่โดดเด่นและเงียบเหงาบ้าง
คุณแจ๊กเกอรีน : ภาพรวมปี2019 ยังซบเซาพอๆ กับเศรษฐกิจแม้จะมีคนบอกเศรษฐกิจดี แต่ก็มีการปิดตัวหลายบริษัทและมีการรีดไขมันมากขึ้น เพื่อให้กระชับ ส่วนภาพรวมเกี่ยวกับเรื่องข่าวบันเทิงก็ยังเน้นแนวกอสซิป รักๆ เลิกๆ มีข่าวที่คนเลิกกันและช็อกวงการอย่างมาก เช่น คู่รักวัยรุ่นอย่าง พีช-พชร จิราธิวัฒน์และแพทริเซีย-ธัญชนก กู๊ด หรือข่าวการหย่าร้างของรุ่นใหญ่อย่าง ตุ้ย-ธีรภัทร์ สัจจกุลและแอนนา นาตาชา เปลี่ยนวิถี
รวมไปถึงอาการป่วยแปลกๆ ของดารา ไม่ว่าจะเป็น น้ำตาล เดอะสตาร์ หรือ บุตรศรัณย์ ทองชิว ที่เสียชีวิตแบบปัจจุบันทันด่วน ด้วยอาการมีเลือดไหลออกปากและจมูกปริมาณมากหรือโรคตุ่มน้ำพองของ ‘เมฆ‘ วินัย ไกรบุตร ที่เกิดจากอาการภูมิคุ้มกันใต้ผิวหนังบกพร่องคล้ายกับแพ้ภูมิตัวเอง และเป็นโรคที่หาได้ยากพบเพียงแค่ 1 ใน 400,000 คนเท่านั้น ภาพรวมก็ยังเป็นข่าวแนวนี้อยู่นะคะ ส่วนข่าวอื่นๆ ก็ยังไม่มีอะไรโดดเด่นมากค่ะ
การทำคอนเทนท์บันเทิงให้คนนิยม
คุณแจ๊กเกอรีน : ต้องยอมรับนะคะ ว่าการทำคอนเทนต์ข่าวบันเทิงในยุคนี้เนี่ยค่อนข้างจะยาก อย่างที่ทราบว่ามันจะมีหลายหน่วยงาน หลายช่องทางแล้ว โดยเฉพาะช่องทางโซเชียลที่ไม่จำเป็นต้องซื้อแอร์ไทม์ หรือเป็นเจ้าของหนังสือก็สามารถทำข่าวได้ ทำให้การทำงานค่อนข้างยากมากค่ะ และก็ต้องยอมรับว่าคนเสพข่าวบันเทิง เบื่อง่ายมาก ยิ่งพอมีโซเชียลมีเดีย คนเข้ามาอ่านข่าวแค่ 3-4 บรรทัด ก็เปลี่ยนใจไปอ่านข่าวอื่นๆแล้ว บางข่าวที่เราตั้งใจทำมาก แต่ผลตอบรับกลับน้อยกว่าที่หวังเพราะคนให้ความสนใจในเนื้อหาแค่แป๊บเดียวแล้วก็หายไปเลย
ดังนั้น วิธีการทำคอนเทนต์ให้ได้รับความสนใจ ก็คงต้องกระชับ ฉับไวและเป็นความจริงค่ะ ประเภทข่าวลือ ข่าวเต้า หรือเขียนประเด็นขึ้นมาและไม่มีมูล คนยิ่งโจมตีและเลิกนิยมไปแล้ว ถ้ามายุคนี้ต้องเป็นข่าวจริง ทุกคนสามารถเป็นนักข่าวได้ ทำให้การเป็นนักข่าวยุคนี้ต้องไว ทันกระแส เขียนข่าวให้โดนใจ และเป็นข่าวจริงไม่ใช่โกหก ต้องเช็คแหล่งข่าวก่อน เพราะคนอ่านข่าวบันเทิงยุคนี้ก็ฉลาด พอๆ กับคนดูละครเดาทางออกหมดเราจะไปโกหกเขาไม่ได้ค่ะ
วิธีการหาต้นตอข่าวบันเทิง
คุณแจ๊กเกอรีน : สำหรับข่าวกอสซิปที่คนสนใจมากจริงๆ แหล่งข่าวก็จะสำคัญมากเลยนะคะ โดยแหล่งข่าวจะมาจากประสบการณ์ในการทำงานของเรา คืออย่างพี่ทำงานมาเยอะ ก็รู้จักคนเยอะ มีข่าวดาราขึ้นมาปุ๊บก็โทรได้เลยค่ะ รวมไปถึงเราก็รู้จักมากกว่าดารา รู้จักแหล่งข่าวอื่นๆ เช่น ช่างแต่งหน้า นางพยาบาล ช่างทำผมหรือแบบอะไรต่างๆ ที่อาจไม่เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิงโดยตรง
แต่ว่าก็อาจให้ข้อมูลที่น่าสนใจ เปิดประเด็นก่อนใครแหล่งข่าวสำคัญมากค่ะ เราจะรอแต่หน้างานตามอีเว้นท์หรือกองละครไม่ได้ ถ้าไม่คิดประเด็นไปให้พร้อมก็สู้คนอื่นไม่ได้เลยนะคะ
ดาราคนไหน กระแสดีตลอดทั้งปี ทั้งชายและหญิง
คุณแจ๊กเกอรีน : สำหรับปี 2019 ดาราที่ยังกระแสดีมีหลายท่านค่ะ อย่างคู่ของ เวียร์-เบลล่า ต้องยอมรับเลยว่ายังเป็นคู่ขวัญที่มีข่าวมาโดยตลอดทั้งข่าวฮอต ข่าวเรื่องงาน และข่าวเรื่องความรักนะคะ ยังมีอีกหลายคนเช่น พีช-พชร ที่ต้องยอมรับว่ามีข่าวเรื่องความรักนำ แต่เรื่องงานก็ยังดีอยู่ และยังมีอีกหลายคนที่ไม่หวือหวามาก ไม่มีละครเลย แต่ยังมีกระแสในโซเชียลอยู่ตลอด เช่น พี่แอน ทองประสม หรือพี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์นะคะ
รวมไปถึงคู่รักอย่าง ณเดชน์-ญาญ่า ที่เป็นขวัญใจคนไทยทั้งประเทศ ตั้งแต่ที่ยังไม่เปิดตัวจนถึงตอนนี้ที่ยังไม่ใช่คำว่าแฟนแต่ก็คงจะชัดเจนแล้วนะคะ โดยรวมแล้ว ก็ยังคงเป็นดาราน้ำดีเหล่านี้ ที่ยังฮอตอยู่ค่ะ
คนไหนกระแสซบเซา ทั้งชายและหญิง
คุณแจ๊กเกอรีน : สำหรับดาราที่กระแสซบเซาก็ต้องบอกกันตามตรง ไม่ได้ว่าเนอะ ดูจากเรตติ้ง ตามข่าว ก็จะเป็นดาราที่ก่อนหน้านี้พุ่งๆ แต่ตอนนี้ก็หายไปเลย ก็คงจะต้องเป็นสามีแห่งชาติ ฟิล์ม-ธนภัทร ที่คนถามว่าตอนนี้ฟิล์มหายไปไหนหรือจะเป็น เต้ย-พงศกร ที่มีผลงานออกมาแต่ก็ยังไม่โดดเด่น ก็อาจจะมีเรื่องความรักมาทำให้หายไปด้วย
ส่วนทาง แมท-ภีรนีย์ ที่มีข่าวออกมา แล้วส่งผลให้ละครเรื่องล่าสุด ลิขิตรักข้ามดวงดาว อาจจะไม่ฮอตอย่างที่คาดหวัง ไม่ใช่ว่าเค้ากลับมาไม่ได้นะคะ แต่คงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ตัวเองนิดนึงนะคะ รวมไปถึงน้องแพทริเซีย กู๊ด เหล่าที่เป็นแก๊งค์ตลก ก็ต้องยอมรับว่าปีก่อนหน้านี้มันฮอตมาก พีคมาก แต่ตอนนี้ด้วยเศรษฐกิจคนอาจจะเครียด ก็เลยทำให้กระแสแผ่ว ซบเซาอาจจะแรงไปหน่อย
บางคนคิดว่าข่าวบันเทิงไร้สาระ คิดอย่างไรและจะทำยังไงให้คนอื่นเห็นคุณค่าของข่าวบันเทิงคะ
คุณแจ๊กเกอรีน : จริงๆ ได้เห็นคอมเม้นท์ในโลกโซเชียลนะคะอยุ่หลายครั้งที่มีข่าวใหญ่ๆ นะคะ บางคนชอบบอกว่ามาทำทำไมข่าวบันเทิง ไร้สาระทำไมไม่ไปทำข่าวเศรษฐกิจการเมือง อันนี้ขอพูดจากใจเลยนะคะ เป็นนักข่าวบันเทิงอะเนอะ จะไปทำเรื่องเศรษฐกิจมันจะไปรู้แตกฉานอะไร ถามว่าทำได้ไหม ก็ทำได้นะคะ
แต่ว่ามันเหมือนคนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวอะค่ะ ขายก๋วยเตี๋ยวไก่ ก็ต้องฆ่าไก่มาปรุงอาหารกินอ่ะคือถ้าคุณไม่กินอ่ะ ก็ไม่ต้องดู ก็ไม่ต้องด่า ถามว่าคุณค่าของข่าวบันเทิงมันอยู่ที่ไหน ข่าวบันเทิงก็คือเรื่องบันเทิง มันก็ทำให้เรามีความบันเทิง ผ่อนคลายอารมณ์ในบางช่วงจังหวะ ถ้าอารมณ์ดี เครียดหรืออะไรก็ตามแต่ เหมือนให้เราได้แสดงอารมณ์ออกมา มีความสุขกับมันและจบไป อยากจะบอกกับคนดูว่าข่าวบันเทิงก็คือเรื่องบันเทิง อย่าไปจริงจังอะไรกับมันมาก วันนี้จบพรุ่งนี้ก็มีเรื่องใหม่มา
คุณค่าของมันก็คือความสุขทางใจอะเนอะ มันอาจจะวัดปริมาณไม่ได้ แต่ไปถามเอเจนซี่ได้ว่าโฆษณาเลือกลงข่าวบันเทิงมากกว่าข่าวประเภทอื่นๆ ไม่งั้นคงไม่ซื้อโฆษณาในช่วงข่าวบันเทิงหรอกค่ะ
อยากให้แนะนำวิธีรักษาชื่อเสียงในวงการบันเทิง ให้อยู่รอดได้นาน
คุณแจ๊กเกอรีน : โดยส่วนตัวเป็นคำแนะนำสำหรับรุ่นพี่ในวงการบันเทิงเนอะ อาจจะไม่ใช่ดารา ก็คือทำข่าวดาราและผ่านดารามาหลายรุ่นแล้วเนอะ ข้อแนะนำสำหรับคนที่อยากอยู่ในวงการนานๆ ต้องมีความซื่อสัตย์กับงาน ซื่อสัตย์กับหน้าที่ ซื่อสัตย์กับคนดู เช่นจริงใจกับคนดู ไม่ Fake ซื่อสัตย์กับงานคือต้องตรงต่อเวลา เคารพทีมงานทุกคน มีความมั่นคงและตั้งใจที่จะมาทำงาน บางคนมาทำงานแค่มาโกยเงินออกอีเว้นท์แต่ไม่ได้โชว์ผลงานในฐานะนักแสดงเลย ทำให้อยู่ในวงการได้ไม่ยาวนานนะคะ
แล้วก็ต้องเป็นคนดีเนอะ พูดง่ายแต่ว่าอยู่ที่องค์ประกอบโดยรวมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น การดูแลบุคลิกภาพส่วนตัว การประพฤติปฏิบัติกับคนอื่น ทั้งแฟนคลับ คนดู นักข่าว และคนที่รวมงานด้วย อาจจะพูดดูสวยงามแต่ถ้าทำได้ก็จะอยู่วงการได้ยาวนานเนี่ยแหละค่ะ
โรคซึมเศร้าปัญหาของคนวงการบันเทิง
คุณแจ๊กเกอรีน : สำหรับตัวพี่เองเวลารับมือกับคอมเม้นท์หรือโซเชียลแรงๆ ค่ะ วิธีรับมือก็คือ เราเอาเวลาที่จะต้องมานั่งอ่านคอมเม้นท์ไปนอนดีกว่านะคะ เพราะงานเราเยอะมาก คำติชมบางทีเราก็อ่านได้นะคะ แต่ถ้าอ่านแล้วไม่สบายใจอ่ะ ก็ทิ้งไปเถอะค่ะ เพราะว่าถ้าไม่สบายใจและไม่มีประโยชน์อะไรกับเรา ง่ายๆเลย เพิกเฉยต่อคำติฉินนินทาที่จะบั่นทอนกำลังใจค่ะ และกำลังงานของเราเอาเวลาไปนอนดีกว่า ถ้าคนมองว่าข่าวบันเทิงไร้สาระ เราก็มองว่าคอมเม้นท์เหล่านี้ไร้สาระอะค่ะ
ปีหน้าจะเห็นสีสันอะไรในวงการที่น่าสนใจหรือน่าจับตามองบ้าง เช่น ละคร เพลง อีเว้นท์
คุณแจ๊กเกอรีน : สำหรับวงการบันเทิงปี 2020 ให้เดาก็จะมีการเปิดตัวช่อง Youtube ต่างๆ มากมายเลย สถานีต่างๆ นอกจากสถานีที่ต้องซื้อแอร์ไทม์ ก็จะมีช่องบน youtube ผลิตรายการที่มีคอนเทนต์ เนื้อหา ดารา รวมไปถึงโปรดักชั่นไม่แพ้ทีวีเลยจะมีเยอะมากมายจะเป็นรายการที่คนดูผ่านมือถือเยอะมากเลย ทำให้ทุกข์หนักอยู่ที่รายการทีวีที่จะต้องต่อสู้ทั้งด้านคอนเทนต์ ความเผ็ดร้อนนะคะ
ทางด้านของดาราที่จะกลับมา คิดว่าหลายคนจะมีบิ๊กโปรเจคนะคะ เช่น ดาราที่ไปโกอินเตอร์ที่จีนจะมีหลายท่านมาก น้องออกแบบ น้องนนกุล รวมไปถึงดาราอีกหลายคนนะคะ พี่เบิร์ดปีหน้าจะมีละครเวทีนะคะ พี่เบิร์ดหลายคนมองว่าซบเซาแต่พี่ว่าพี่เบิร์ดยังอยู่ในกระแสตลอด รวมถึงพี่อั้ม พัชราภาค่ะ ที่ปีหน้าจะมีละครกับมิกค์ ทองระย้านะคะ ถือว่าเป็นตัวแม่ของวงการบันเทิงนะคะ สำหรับใครที่คิดถึงจะได้เห็นดาราดังๆ ทั้งพี่เบิร์ด พี่อั้ม รวมไปถึงคอนเทนต์บนโลกโซเชียลที่มันหนาแน่นกันมากขึ้น เข้มข้นกันมากขึ้นค่ะ
รักติดไซเรน สร้างกระแสเพลงฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง
กลายเป็นเพลงที่ฮอตฮิตติดลมบนตั้งแต่ละครเรื่องรักฉุดใจนายฉุกเฉินยังไม่ออนแอร์ ที่มียอดรับชมบน Youtube มากถึง 142 ล้านครั้ง และไม่ว่าใครที่ร้องโคฟเวอร์ต่างก็มียอดการรับชมแตะหลักล้านทั้งสิ้น เรียกว่าเป็นเพลงแห่งปี ที่ช่วยสร้างสีสันให้กับวงการเพลงอีกครั้ง รวมทั้งสร้างรายได้จากงานอีเว้นท์ งานโฆษณา รวมถึงผลงานละครใหม่ให้แก่ไอซ์ พาริส และ แพรวา ณิชาภัทร ได้อีกด้วย
IDOL หน้าใหม่เกิดเพียบ
เมื่อปี 2018 เรียกว่าเป็นปีทองของวง BNK48 แต่ในปี 2019 นั้น เรียกว่าเป็นปีแห่งการเกิดขึ้นของไอดอลหน้าใหม่อีกเพียบ แม้ว่าไอดอลจะเกิดขึ้นมาพร้อมๆ กันในช่วง 1-2 ปี แต่ความโด่งดังและเป็นที่รู้จักของวงย่อยทำให้วัยรุ่นตอบรับและรู้จักกันมากขึ้น โดย 10 อันดับของไอดอลที่คนนิยมมากที่สุด
แต่ไม่ได้หมายความว่าวงอื่นๆ ไม่โด่งดัง เพราะจำนวนไอดอลมีมากกว่า 100 ชีวิต กระจายอยู่ตามพื้นที่จังหวัดต่างๆ และความนิยมในผลงานก็จะเจาะจงไปในรูปแบบรายบุคคลอีก ซึ่งแม้ว่าเม็ดเงินรายได้ของไอดอลเหล่านี้ไม่ได้ฟู่ฟ่าเท่ากับเหล่าเซเลบริตี้ที่มีผลงานตามหน้าจอสื่อหลัก แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นที่รู้จักในกลุ่มวัยรุ่นและโลกโซเชียลอย่างดี
คาดการณ์ปี 2020 บันเทิงยังคึกคักแต่เม็ดเงินอาจไม่ร้อนแรง
แม้ว่าวงการบันเทิงจะยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีเงินสะพัดและการจ้างงานอยู่เพื่อช่วยสร้างกระแสให้แบรนด์เป็นที่พูดถึง แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่ได้มีเม็ดเงินคึกคักหรือการจ้างงานบ่อย หากไม่มี “ข่าว” ที่สามารถดึงดูดให้นักข่าวมาทำข่าวได้ แม้ว่าข่าวเหล่านั้นจะเป็นข่าวเชิงลบก็ตาม
แต่เรื่องดีๆ ก็ยังมีนั่นคือกระแสของวงการภาพยนตร์และละครที่คนยังมองว่าซบเซาลง แต่ผลงานหลายเรื่องยังเป็นที่พูดถึงและสร้างรายได้ให้กับสถานีบ้าง เช่น กรงกรรม ที่นอกจากจะได้คู่ขวัญอย่าง เบลล่า-เจมจิ มาช่วยสร้างเรตติ้ง แต่ก็ยังช่วยสร้างกระแสให้ใหม่ เจริญปุระ กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้ง รวมทั้งนักแสดงทุกคนในเรื่องก็สามารถสร้างชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในกลุ่มแฟนคลับมากขึ้น เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานละครที่ช่วยให้ช่อง 3 กลับมามีเรตติ้งที่ดีอีกครั้ง โดยปิดไปที่ 11.1 เช่นเดียวกับละครช่อง 7 อย่าง มธุรสโลกันตร์ ที่แม้จะมาช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี แต่ก็ทำให้เกิดคู่จิ้นคู่ใหม่ของวงการอย่าง ไมค์-มุกดา ที่แม้จะสร้างรอยร้าวให้ชีวิตจริงของพระเอกหนุ่ม แต่ช่วยให้มีผลงานกลับมาอีกครั้ง
นอกจากนี้ การกลับมาแสดงอีกครั้งของชมพู่ อารยา ในภาพยนตร์ ตุ๊ดซี่ส์ แอนด์ เดอะเฟค (Tootsies & The Fake) ก็ช่วยสร้างชื่อให้เธออีกครั้ง เพราะในปีที่ผ่านมานอกจากการนั่งเป็นพิธีกรของรายการ สามแซ่บ อีเว้นท์และโฆษณา ชมพู่ ก็ไม่ได้มีผลงานแสดงที่ชัดเจนแบบสมัยก่อน อาจเพราะเธอต้องการเต็มที่กับการเลี้ยงลูก ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นที่จับตามองอย่างมาก เพราะเธอต้องแสดงเป็นหลายคน และหลังจากออกฉายเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ (13 ธันวา) ทำรายได้แตะ 200 ล้านบาทไปแล้ว คาดว่ายังทำรายได้ไปได้มากขึ้นอีก
ทั้งนี้ ในปี 2020 ยังเป็นปีทองของวงการโซเชียลมีเดีย เพราะเป็นช่องทางที่คนไทยใช้สื่อสาร ติดตาม บุคคลในวงการบันเทิงอยู่ จึงเชื่อได้ว่าเรายังคงต้องตามข่าวจาก ig ของดาราที่กลายมาเป็นช่องทางสื่อสารระหว่างดารากับนักข่าว และดารากับแฟนคลับต่อไป ส่วนการกลับมาของซุปตาร์ทั้ง อั้ม พัชราภา, เบิร์ด ธงไชย จะสร้างกระแสให้กลับมาบูมอีกครั้งหรือไม่ ต้องรอดูในปีหน้ากัน