ที่ผ่านมาเรามักเห็นปัญหาผู้อาศัยในพื้นที่ชานเมือง จำเป็นต้องทิ้งถิ่นฐานเข้ามาในเมืองใหญ่เพื่อรับจ้างทำงานอย่างเหงาใจและไกลบ้าน แต่วันนี้การสำรวจในอเมริกาเผยให้เห็นว่าธุรกิจสินค้าในท้องถิ่นกำลังไปได้สวย และชาวอเมริกันเกือบครึ่งอยากเปิดธุรกิจของตัวเอง ซึ่งถือเป็นเทรนด์ตลาดที่มีส่วนช่วยอย่างมากในการพลิกเศรษฐกิจอเมริกันให้กลับมาดีเหมือนเดิม
การสำรวจที่จัดทำขึ้นในอเมริกาจากหลายๆ สำนัก ได้เผยให้เห็นว่าประชากรชาวอเมริกัน 48% ต้องการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และเจ้าของกิจการในปัจจุบันราว 71% กล่าวว่าถึงแม้ธุรกิจเดิมจะต้องปิดตัวลง พวกเขาก็จะเปิดธุรกิจใหม่ต่อไปอีกเรื่อยๆ ซึ่งเชื่อว่าผลสำรวจนี้จะมีแนวโน้มตรงกับประชาชนชาวไทยในพ.ศ.นี้
นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังชี้ให้เห็นเทรนด์ธุรกิจว่าร้านค้าในท้องถิ่นกำลังได้รับความนิยม โดยกล่าวว่าผู้บริโภคในปัจจุบันหันไปสนับสนุนร้านค้าในท้องถิ่นของตัวเอง เพราะทุกคนเชื่อว่าการสนับสนุนธุรกิจในท้องถิ่น จะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม 59% ของผู้บริหารและเจ้าของกิจการ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่ยากลำบากสำหรับการทำธุรกิจ สาเหตุเพราะสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่, คู่แข่งที่เพิ่มมากขึ้น และเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็มีส่วนทำให้การทำธุรกิจในปัจจุบันยากขึ้นไปอีก เพราะถึงแม้เทคโนโลยีไฮเทคจะช่วยให้หาลูกค้าใหม่ได้ง่ายขึ้น แต่ในทางกลับกัน มันก็ทำให้รักษาฐานลูกค้าเก่าได้อยากขึ้นด้วย อันเป็นผลต่อเนื่องมาจากจำนวนคู่แข่งนั่นเอง
ต้องยอมรับว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับนักธุรกิจทั้งใหญ่และเล็ก มือเก่าและมือใหม่ แต่ถึงรู้ว่ายาก หลายคนก็อยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และการสนับสนุนร้านค้าในท้องถิ่นเป็นเรื่องที่ถูกพูดคุยกันมานาน เพราะประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจที่เห็นได้ชัดเจน แต่ในบ้านเรากลับยังไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควร เชื่อได้ว่าหากได้รับการสนับสนุนที่ถูกจุด ธุรกิจท้องถิ่นจะต้องไปได้สวยแน่ๆ
ที่มา: Mashable