Site icon Thumbsup

คุยกับ Epson และการเติบโตของธุรกิจเครื่องพิมพ์ในการบริหารของ “ยรรยง มุนีมงคลทร”

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่มักมองว่าเทรนด์การใช้กระดาษหรือเครื่องพิมพ์ อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ลดการใช้งานกระดาษลงและส่งผลกระทบถึงธุรกิจเครื่องพิมพ์ ซึ่งทีมงาน Thumbsup ได้พูดคุยกับทางคุณยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด ในเรื่องของการรับตำแหน่งใหม่และมุมมองในอุตสาหกรรมนี้จนถึงการเติบโตในอนาคต

หากย้อนถึงประวัติการทำงานของคุณยรรยงนั้น ต้องเรียกว่าเริ่มต้นทำงานกับเอปสัน มาตั้งแต่ยุคเริ่มต้นของเอปสันที่เปิดให้บริการผ่านพาร์ทเนอร์ในประเทศไทยจนถึงการขยายธุรกิจมาดำเนินธุรกิจในไทยด้วยตนเอง ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีก็น่าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ได้แล้วว่าบริษัทเครื่องพิมพ์รายใหญ่นี้ยังคงยึดมั่นในการให้บริการในไทยต่อเนื่อง

ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา หลายธุรกิจเจอผลกระทบค่อนข้างเยอะ แม้กระทั่งเอปสันเอง ในช่วง 3 เดือนแรกของการเกิดสถานการณ์วิกฤต และการปรับกลยุทธ์เข้าสู่ออนไลน์ก็ช่วยให้ยอดขายและโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าออนไลน์เป็นไปได้ดีขึ้น

“เรามีออฟฟิเชียลแอคเคาท์ของตัวเองอย่างเป็นทางการบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ จากเดิมที่ทำผ่านพาร์ทเนอร์ แต่เมื่อหน้าร้านต้องปิดตัว การทำออฟฟิเชียลแอคเคาท์ก็เป็นอีกทางรอดหนึ่งที่เรากับคู่ค้ารายย่อยช่วยเหลือกัน เพื่อให้พยุงธุรกิจไปได้”

คนอาจจะมองว่าช่วงโควิดไม่มีการทำงานออฟฟิศและไม่ต้องไปเรียนอาจจะลดการใช้เครื่องพิมพ์ลง เพราะเรียนหรือทำงานออนไลน์แทน แต่โอกาสใหม่ที่เอปสันได้รับคือ มีคนสั่งซื้อเครื่องพิมพ์ไปใช้งานที่บ้านมากขึ้น เพราะเขายังต้องทำงานและยังต้องเรียน

กลยุทธ์ออนไลน์ที่เอปสันปรับใช้คือ

แม้ว่าภาพรวมของหลายๆ อุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบลดลงอย่างหนัก อย่างในกลุ่ม IT เอง ติดลบ 12% หรือกลุ่มค้าปลีกติดลบ 23% หรือกลุ่มกล้องที่ติดลบสูงถึง 57% ส่วนธุรกิจปริ้นเตอร์ก็ลดลง 20% ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ทั่วโลกกังวลว่าสถานการณ์วิกฤตในครั้งนี้ส่งผลต่อทุกอุตสาหกรรมและยังเป็นเรื่องยากที่จะฟื้นกลับมาในระยะเวลาอันรวดเร็ว

ทำให้กลยุทธ์ของเอปสันในปีนี้ ปรับสัดส่วนเป็น B2B 30% และ B2C 70% เพราะมองว่าธุรกิจ B2B ไม่ปรับขึ้นและลงรุนแรงแต่สามารถเป็นสัญญาร่วมกันระยะยาว และมีการใช้งานสินค้าต่อเนื่อง เช่น การเปิดให้เช่าเครื่องใช้งาน ค่าบริการเริ่มต้น 900 บาท (เหมาะกับกลุ่ม SME) เสมือนการเช่าซื้อและราคาที่ให้เลือกก็หลากหลายไม่ต้องลงทุนและรับผิดชอบต่างๆ เอง เพราะเอปสันจะเข้าไปช่วยดูแลในเรื่องของการบำรุงรักษา เปลี่ยนหมึก และให้บริการได้ตลอด ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่เอปสันมองว่าน่าจะเป็นไปได้ดี

โดยเน้นไปที่กลุ่มธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่มีการเจริญเติบโตได้ดี เน้นไปที่สินค้าหลักคือ Inkjet เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง เครื่องพิมพ์ฉลาก หรือแม้แต่การทำโรบอตเพื่อใช้งานในโรงพยาบาล เป็นต้น

“โปรเจคใหญ่ที่เราภูมิใจคือการร่วมมือกับโรงพยาบาลพิมพ์ฉลากสั่งยา ใบสั่งจ่าย รวมทั้งพิมพ์ตารางสำหรับให้ผู้ป่วยสามารถกินยาตามเวลาที่หมอกำหนด เพื่อลดความผิดพลาดในการรักษา ซึ่งเป็นแนวทางที่เอปสันจะมุ่งไป”

ส่วนกลุ่มคอนซูเมอร์ของปีนี้คาดว่าจะเหนื่อย เพราะยังไม่ได้มีการใช้งานที่มากนัก แม้จะมีทิศทางการสั่งซื้อไปใช้งานที่บ้านแต่ก็ยังเป็นกลุ่มเล็ก ซึ่งเรายังจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการใช้จ่ายอยู่

นอกจากนี้ เอปสันยังต้องการพาร์ทเนอร์ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้นทั้งเชิงลึกและกว้างโดยจะมีเพิ่มอีก 7 รายจากเดิมที่มีอยู่เพื่อให้องค์กรทำงานได้เต็มที่ ประหยัดค่าใช้จ่าย และใช้งานเครื่องได้อย่างคุ้มค่าที่สุด รวมทั้งกลุ่มหน่วยงานการศึกษา ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่มีการใช้งานโปรเจคเตอร์ของเอปสัน

“เราจะมีการให้บริการในกลุ่มประกัน ธนาคาร โรงเรียน ห้าง บริษัทท่องเที่ยว ก็เป็นลูกค้าหลัก ในรูปแบบของ as a serviceมากขึ้น”

ส่วนรายได้ของปีที่ผ่านมา ด้วยปีบัญชีของเอปสันที่เป็นช่วงเมษายน-มิถุนายน ทำให้รายได้ของปีที่แล้วค่อนข้างติดลบ แต่ก็เริ่มกลับมาฟื้นดีขึ้นในไตรมาสแรกของปีและเชื่อว่าช่วงครึ่งปีหลังจนถึงปีหน้า เอปสันจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้