แม้หลายคนจะรู้สึกว่าช่วงโควิด-19 หลายธุรกิจต้องปิดตัวลง แต่ความต้องการใช้เครื่องพิมพ์ แอปพลิเคชั่น หรือเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์ตลอดเวลา เพราะต้องสื่อสารผ่านป้ายแบบลดการพูดคุย การแข่งขันของราคาปริ้นก็ลดลง ทำให้การปรับตัวในการนำเทคโนโลยีไปใช้เพื่อปรับเปลี่ยนธุรกิจ กลายมาเป็นโอกาสที่เพิ่มขึ้นของทางเอปสัน
นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยืดเยื้อยาวนานสร้างผลกระทบอย่างหนักกับทุกวงการธุรกิจ บังคับให้ทุกองค์กรต้องปรับตัวอย่างมาก เอปสันเองก็ได้ปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงปัจจัยและความเสี่ยงต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น ที่สำคัญคือสวัสดิภาพของพนักงานและครอบครัว รวมถึงเหล่าตัวแทนจำหน่าย จึงมีการปรับเปลี่ยนทั้งในรูปแบบการปฏิบัติงานจากที่พักอาศัยและเข้าออฟฟิศเท่าที่จำเป็น
รวมถึงกลยุทธ์และช่องทางการขายที่เน้นสื่อออนไลน์มากขึ้น ด้านการสร้างตลาดที่เน้นโมเดลการให้บริการและตลาดเกิดใหม่เพื่อช่วยลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่าย ไปจนถึงการกำหนดเป้าหมายธุรกิจที่ต้องพิจารณาจากการแพร่ระบาดและการกระจายวัคซีนในแต่ละช่วงเวลา
“ในส่วนยอดขายโดยรวมของกลุ่มสินค้าเครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาสแรกของบริษัทฯ (เม.ย. – มิ.ย. 2564) มีสัญญาณที่ดีในทุกสินค้า โดยในกลุ่มเครื่องพิมพ์หน้ากว้างสำหรับองค์กร (Corporate Printer) มีการเติบโตถึง 125% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว บริษัทฯ จึงคาดการณ์ว่าจะสามารถปิดยอดขายในไตรมาสแรกนี้เป็นบวกได้แน่นอน โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการปรับตัวการทำงานในภาคธุรกิจและมาตรการ WFH (Work From Home) ซึ่งทำให้มีความต้องการใช้งานเครื่องพิมพ์สูงขึ้น อีกทั้งเครื่องพิมพ์สำหรับองค์กรนี้ยังมีราคาที่จับต้องได้ง่ายขึ้นอีกด้วย”
เครื่องพิมพ์เชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม รุ่น SureColor T-Series ซึ่งเดิมเคยเป็นสินค้าสำหรับองค์กรที่ทำงานออกแบบ งานเขียนแบบ แผนที่ GIS และงาน CAD/CAM เช่น บริษัทสถาปนิก บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ผู้ประกอบ การธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และหน่วยงานราชการ เป็นต้น แต่ด้วยราคาที่ไม่สูง ขนาดที่กะทัดรัด น้ำหนักเบา ใช้งานง่ายและสามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งยังพิมพ์งานขนาดใหญ่คุณภาพสูงได้อย่างรวดเร็ว จึงได้รับความสนใจในวงกว้างยิ่งขึ้นจากบริษัทธุรกิจ สถาบันศึกษา ธุรกิจรีเทล โรงแรม ไปจนถึงโรงพยาบาล สำหรับใช้พิมพ์งานอินเฮาส์ เช่น การพิมพ์โปสเตอร์ สื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ สติกเกอร์ งานออกแบบ ผังระบบ ผังโครงสร้างองค์กร เป็นต้น
เอปสันจึงได้เปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มนี้อีก 4 รุ่น เพื่อรองรับความต้องการที่กำลังเพิ่มขึ้นในขณะนี้ และคาดว่าจะมีโอกาสเติบโตขึ้นอย่างมากภายหลังโควิด
Epson SureColor T-Series รุ่นใหม่ที่เปิดตัวครั้งนี้ ประกอบด้วย SC-T3130M, SC-T5130M, SC-T3435 และ SC-T5435 สำหรับรุ่น SC-3130M หน้ากว้าง 24 นิ้ว และ SC-T5130M ขนาด 36 นิ้ว มีจุดเด่นที่มีสแกนเนอร์ติดตั้งในตัว ช่วยให้สามารถสแกนและทำสำเนาได้โดยไม่ต้องหาอุปกรณ์ต่อพ่วงเพิ่มเติมเหมือนรุ่นก่อนๆ ในขณะที่รุ่น SC-T3435 ที่มีหน้ากว้าง 24 นิ้ว และ SC-T5435 ขนาด 36 นิ้ว มีการปรับให้สามารถรองรับหมึกพิมพ์ได้หลายขนาด ตั้งแต่ 110, 350 หรือ 700 มิลลิลิตร จึงช่วยให้พิมพ์งานปริมาณมากขึ้นได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุด และให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ขนาดหมึกพิมพ์ได้เหมาะสมกับลักษณะงานของตัวเอง ช่วยในด้านการบริหารต้นทุนการพิมพ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เครื่องพิมพ์ทั้ง 4 รุ่น ใช้เทคโนโลยีหัวพิมพ์ PrecisionCore ของเอปสันที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการพิมพ์และสามารถรับประกันคุณภาพของงานพิมพ์ด้วยชิพที่ควบคุมการหยดน้ำหมึกถึง 40 ล้านหยดต่อวินาทีได้อย่างแม่นยำทุกหยด จึงให้รายละเอียดที่สมบูรณ์แบบกับทุกงานพิมพ์ นอกจากนี้ ยังใช้คู่กับหมึกกันน้ำคุณภาพสูง UltraChrome XD2 ของเอปสัน ที่ให้ผลงานที่มีสีสันสดใส คมชัด และทนทานต่อสภาพแวดล้อม
นอกจากนี้ เครื่องพิมพ์ทั้ง 4 รุ่นนี้ยังได้รับการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ที่มีความสูงแตกต่างกันสามารถใช้เครื่องได้อย่างสะดวก สบาย ทั้งยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานยิ่งขึ้น เช่น ฟังก์ชั่นการป้อนและตัดวัสดุการพิมพ์จากเครื่อง ฟังก์ชั่น Enlarge Copy ช่วยสร้างสำเนาขนาดใหญ่ได้อย่างง่ายดาย ด้วยการสแกนงานจากเครื่องพิมพ์หรือสแกนเนอร์ของเอปสันโดยตรง ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์
ไฮไลท์ของการเปิดตัวครั้งนี้ อยู่ที่รุ่น SC-T3130M ที่เป็นเครื่องพิมพ์ออลอินวันฉบับตั้งโต๊ะ ที่ทั้งเล็กและเบาที่สุดในตลาดขณะนี้ ขนาดกว้างไม่ถึง 1 เมตร และหนักเพียง 34 กิโลกรัม สามารถพิมพ์โปสเตอร์หรือป้ายประชาสัมพันธ์ได้ใหญ่ถึงขนาด A1 ทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สาย เหมาะกับการใช้งานที่บ้านหรือในออฟฟิศที่มีพื้นที่จำกัด หรือการทำงานที่ต้องการความคล่องตัวในช่วงนิวนอร์มอล
ไม่ว่าจะเป็น กรณีที่ทุกแผนกในบริษัทมีเครื่องพิมพ์อเนกประสงค์ของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องออกไปจ้างหน่วยงานภายนอกในการพิมพ์ หรือกรณีโรงพยาบาลสนาม ซึ่งต้องใช้สื่อประชาสัมพันธ์ติดตั้งรอบบริเวณ นอกจากนี้ เอปสันยังได้เพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วย Onsite Service นาน 3 ปี สำหรับหัวพิมพ์ ตัวเครื่อง และชุดสแกนเนอร์
“สำหรับโอกาสในการทำตลาดของสินค้าใหม่นี้ บริษัทฯ มองว่าจะมีความต้องการการใช้งานของเครื่องพิมพ์อเนกประสงค์ SureColor T-Series เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นสินค้าที่ลงตัวกับรูปแบบการทำงานของทุกองค์กรในขณะนี้ และตอบโจทย์ทั้งในด้านความคุ้มค่าและความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ และหากการกระจายฉีดวัคซีนให้กับประชากร 70% ในสิ้นปีนี้เป็นไปได้ตามที่รัฐบาลกำหนดก็จะช่วยฟื้นความมั่นใจในการลงทุนของภาคเอกชนและการใช้จ่ายของภาครัฐได้ บวกกับระบบซัพพลายเชนทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เพิ่มโอกาสที่จะเกิดฐานการผลิตและอุตสาหกรรมใหม่ในประเทศไทย ซึ่งการลงทุนกับสินค้าไอทีเป็นเรื่องพื้นฐานที่จำเป็นของทุกธุรกิจอยู่แล้ว เอปสันจึงเชื่อว่า SureColor T-Series น่าจะเป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้ายอดนิยมในปีงบประมาณนี้ฯ ” นายยรรยง กล่าว