มาถึงกลางปีตัวเลขที่น่าสนใจคือเรื่องตัวเลขคาดการณ์ผลสำรวจมูลค่าอีคอมเมิร์ซของไทยในปี 2560 และปี 2561 ที่ต้องยอมรับว่ามีผู้ให้บริการจากต่างประเทศเข้ามาแย่งส่วนแบ่งหลักในไทย แต่ทางสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเลคทรอนิคส์ (ETDA) ก็ยังมั่นใจว่ายังมีผู้ใช้งานและการเติบโตที่ดีต่อเนื่องในกลุ่ม B2C และ C2C
นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเลคทรอนิคส์ (องค์กรมหาชน) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า ในปี 2560 ประเทศไทยมีมูลค่าอีคอมเมิร์ซทั้งสิ้น 2,812,592.03 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่ม B2B ถึง 1,675,182.23 ล้านบาทหรือคิดเป็น 59.56% รองลงมาคือ B2C มูลค่ากว่า 812,612.68 ล้านบาทหรือ 28.89% และ B2G มูลค่า 324,797.12 ล้านบาทหรือ 11.55% ความน่าสนใจคือกลุ่ม B2B มีการเติบโตมากขึ้นถึง 8.63% เช่นเดียวกับ B2C ที่โตขึ้น 15.54% และคาดว่าในปี 2561 จะสามารถมีการซื้อขายแตะ 3 ล้านล้านบาทได้แน่นอน
ทางด้านของกลุ่มอุตสาหกรรมที่เติบโตด้านอีคอมเมิร์ซมากที่สุด คือ
- อุตสาหกรรมค้าปลีกและค้าส่ง มีมูลค่าอยู่ที่ 869,618.04 ล้านบาท คิดเป็น 30.92%
- อุตสาหกรรมการให้บริการที่พัก มีมูลค่าอยู่ที่ 658,131.15 ล้านบาท คิดเป็น 23.40%
- อุตสาหกรรมการผลิต มีมูลค่าอยู่ที่ 417,207.07 ล้านบาท คิดเป็น 14.83%
- อุตสาหกรรมข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร มีมูลค่าอยู่ที่ 404,208 ล้านบาท คิดเป็น 14.37%
- อุตสาหกรรมการขนส่ง มีมูลค่าอยู่ที่ 104,904.28 ล้านบาท คิดเป็น 3.73%
- อุตสาหกรรมศิลปะความบันเทิงและนันทนาการ มีมูลค่าอยู่ที่ 19,716.04 ล้านบาท คิดเป็น 0.70%
- อุตสาหกรรมบริการอื่นๆ มีมูลค่าอยู่ที่ 11,280.33 ล้านบาท คิดเป็น 0.43%
- อุตสาหกรรมการประกันภัย มีมูลค่าอยู่ที่ 2,729.65 ล้านบาท คิดเป็น 0.10%
โดยทาง ETDA พยายามที่จะเดินหน้าสนับสนุนกลุ่ม SME ให้มีคุณภาพสินค้าทัดเทียมระดับโลก จากเดิมที่มีสินค้ากลุ่มเครื่องสำอางค์และแฟชั่นของไทยที่โด่งดังมากในต่างประเทศ ไม่แพ้กลุ่มอาหารและการท่องเที่ยว ซึ่งทางหน่วยงานจะคัดเลือก 50 แบรนด์สินค้าชั้นนำ ผลักดันให้เข้าไปอยู่ในช่องทางอีคอมเมิร์ซของ T-mall เพื่อสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศให้มากขึ้น
พัฒนา SME
นอกจากนี้ ทาง ETDA ยังได้มีการบันทึกข้อตกลงในการจัดตั้ง e-Commerce Park ร่วมกับทางมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เพื่อสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ SME ในการก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์ โดยตั้งเป้าจะใช้งบหลักพันล้านบาทในการเดินหน้าศูนย์แห่งนี้ขึ้นมา และได้ขอความร่วมมือไปทางหน่วยงานเอกชนในการให้ความรู้และสนับสนุนในการเดินหน้าศูนย์แห่งนี้ด้วยกัน
ทั้งนี้ ยังมีการลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมมือกับ Dongguan China Council for the Promotion of International Trade ประเทศจีน ถือว่าเป็นหน่วยงานที่มีการสนับสนุนของภาครัฐอย่าง Dongguan ซึ่งเป็นเมืองอีคอมเมิร์ซอันดับ 1 ของจีน ซึ่งเป้าหมายในการร่วมมือกันมี 5 ด้าน คือ
- เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูล ทักษะการปฏิบัติงานและประสบการณ์
- แลกเปลี่ยนบุคลากร การปรึกษาหารือ กระบวนการทำงานและโครงการที่จัดทำขึ้น
- การจัดกิจกรรมร่วมกันทั้งบรรยาย อบรมสัมมนา และ/หรือ โครงการวิจัย ในเรื่องที่เป็นประโยชน์ร่วมกันตามความเหมาะสม
- แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมและวางแผนกิจกรรมในเรื่องที่เกี่ยวข้อง
- ส่งเสริมกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์ร่วมกัน
สำหรับ e-commerce park ที่จีนนั้นมีกว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ โดยมีลักษณะคล้ายนิคมอุตสาหกรรมหรือเมืองที่มีพื้นที่สำหรับดำเนินงานร่วมกันของบริษัทต่างๆ เพื่อเป็นศูนย์แลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยีและสร้างผู้ประกอบการ ฝึกอบรม ให้คำปรึกษา คลังสินค้าและพื้นที่สำหรับการทำเวิร์คช้อปด้วย อ่านรายละเอียดสไลด์เพิ่มเติมได้ที่ https://www.etda.or.th/app/webroot/content_files/13/files/Present_Day_02_eCom_Value.pdf