ต้องบอกว่านี่เป็นยุคทองของธุรกิจจำหน่ายงานฝีมือและของสะสมออนไลน์เฉพาะทางจริงๆ เพราะการสำรวจล่าสุดพบว่ายักษ์ใหญ่ในตลาดนี้อย่าง Etsy สามารถทำยอดขายได้เติบโตมากกว่า 2 เท่าตัวในปี 2012 ถือเป็นสัญญาณที่แสดงถึงอิทธิพลของ Etsy ที่แกร่งขึ้นอย่างชัดเจน
การสำรวจพบว่าแหล่งซื้อขายงานฝีมือและของสะสมชื่อดังอย่าง Etsy สามารถทำยอดจำหน่ายสูงเกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯภายในปีนี้ (2012) โดยตัวเลข 1 พันล้านเหรียญนั้นเพิ่มขึ้นจากที่ Etsy ทำได้ในปี 2011 มากกว่า 2 เท่าและหากเทียบกับปี 2010 สัดส่วนการเพิ่มขึ้นจะอยู่ที่ 3 เท่าตัว
รายงานระบุว่า Etsy สามารถสะสมขายบนหน้าเว็บเกินกว่า 800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปแล้วในเดือนพฤศจิกายน 2012 ซึ่งเป็นเดือนแรกของบริษัทที่สามารถทำรายได้เกิน 100 ล้านเหรียญ ก่อนจะทำรายได้ได้มากกว่าในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนแห่งเทศกาลการให้ของขวัญ
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า Etsy กำลังมีฐานะทางการเงินมั่นคงมากขึ้น เนื่องจาก Etsy จะเก็บค่าบริการ 0.20 เหรียญต่อรายการ ข้อมูลระบุว่าบริษัทมีรายได้เฉพาะส่วนนี้มากกว่า 17 ล้านเหรียญในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งยังไม่นับส่วนแบ่ง 3.5% จากราคาจำหน่ายที่เป็นค่าธรรมเนียม
การประมาณตัวเลขยอดขายของ Etsy นี้แสดงถึงพลังของสินค้ากลุ่มเฉพาะหรือ niche market ได้ดี ขณะเดียวกันกลยุทธ์ที่ Etsy กำหนดนโยบายให้แบ่งสินค้าในเว็บไซต์ออกเป็น 3 ประเภทเท่านั้นล้วนส่งให้ Etsy เป็นแหล่งซื้อสินค้าที่หาได้ง่ายและตรงความต้องการ โดย Etsy จะรับจำหน่ายเฉพาะสินค้ากลุ่ม handmade (งานทำมือ), กลุ่ม vintage (ของสะสมอายุมากกว่า 20 ปีขึ้นไป) และกลุ่มวัตถุดิบในการผลิตงาน เช่น ริบบิน, ไหมพรม
จุดนี้พบว่าสินค้ามากกว่า 11 ล้านรายการที่ถูกจัดเข้ากลุ่มสินค้า 3 ประเภทในช่วงเดือนพฤศจิกายน ทั้งหมดเป็นสินค้าคุณภาพ ที่มีการตรวจสอบโดยหลายๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นทีมงานของ Etsy เอง, สมาชิก รวมทั้งพ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์ ซึ่งจุดนี้สามารถสร้างคุณค่าให้กับ Etsy ได้เป็นอย่างดี
ไม่แน่ Etsy อาจจะเป็นตลาดออนไลน์ที่มาแรงและส่งอิทธิพลไปทั่วโลกในอนาคต
ที่มา: Business Insider