วันนี้เรามีบทความพิเศษที่ถ่ายทอดจากผู้ที่ได้เข้าร่วมแข่งขันงาน Startup Weekend Bangkok : Travel Edition ที่จัดไปเมื่อวันที่ 12-14 ธันวาคม 2557 ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่คนที่เข้าร่วมเท่านั้นจะรู้สึกและสัมผัสได้ ทาง thumbsup จึงไม่ช้าที่จะนำการบอกเล่านี้มาให้ผู้อ่านได้รู้กัน เผื่อว่างานครั้งหน้าจะได้ไปรับรู้ความรู้สึกนี้กันบ้างครับ
Editor Note: บทความนี้เขียนโดย Woratana Ngarmtrakulchol หรือ Perth เผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ designil.com ได้รับการอนุญาตให้เผยแพร่ซ้ำบทเว็บไซต์ thumbsup แล้วเป็นที่เรียบร้อยครับ
Startup Weekend เป็นงานที่ให้คนเข้าไปจับกลุ่
ก่อนหน้านี้คุณ Vadi Forte เคยมา เล่าประสบการณ์ในงาน Startup Weekend Chiang Mai 2014 กันไปแล้ว คราวนี้ผมเลยขอมาเล่
ทำ Startup การท่องเที่ยว ใน SWBKK Travel Edition
งาน Startup Weekend Bangkok ครั้งนี้จัดขึ้นในหัวข้อ Travel Edition คือให้ทำ Startup ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว นั่นเองครับ โดยจะเริ่มงานตอนวันศุกร์เย็น และจบวันอาทิตย์เย็น (3 วัน) เพื่อให้คนที่มี
ตอนลงทะเบียนจะมีให้เลือกว่
คนเข้าร่วมงานมีประมาณ 40 – 50 คนครับ แบ่งเป็นคนไทยกับคนต่างชาติ (ญี่ปุ่น, บราซิล, แคนาดา ฯลฯ) ประมาณครึ่งต่อครึ่ง ทุกคนจะได้รับเสื้อ Startup Weekend คนละตัว ซึ่งผมมารู้ตอนวันอาทิตย์ว่าฝรั
สำหรับใครที่อยากมาร่วมงาน Startup Weekend แนะนำให้สมัครตั้งแต่เนิ่น ๆ ครับ แอดมินสมัครช่วงแรก 2,200 บาท จากราคาเต็ม 2,900 บาท หรือถ้าเป็นนักศึกษาเค้าก็มีส่
สำหรับใครที่มีเงินเก็บไม่ เยอะ และสงสัยว่าเงินที่เราจ่
วันที่ 1 : Pitch ไอเดีย Startup และจัดทีม
งาน Startup Weekend Bangkok เริ่มขึ้นตอนเย็นวันศุกร์ โดยจะมีกิจกรรม Icebreaking เล็ก ๆ น้อย ๆ แล้วก็ถึงเวลา Pitch ไอเดีย
การ Pitch ไอเดีย คือ จะให้เสนอไอเดียของ Startup ที่อยากทำคนละ 1 นาที พูดจบปรบมือไล่เลย ใครจะ Pitch ก็ได้ครับ หรือแม้แต่ Staff บางคนมีไอเดียก็เอามาเสนอ แต่จะช่วยเหลือได้อย่างเดียวครั
ซึ่ง หลังจากได้ไอเดียมาประมาณ 20 – 30 ไอเดีย ก็จะให้คนในงานโหวตกันว่
อ้อ สำหรับไอเดียที่ไม่ติดอันดับก็
สิ่งที่สำคัญใน Startup Weekend คือการทำ Validation ต้องแสดงให้กรรมการเห็นว่าไอเดี
ย Startup ของเรามีกลุ่มเป้าหมายอยากใช้ ยอมจ่ายเงินให้จริง ๆ ยิ่งดี
ใน งาน Startup Weekend ครั้งนี้มีไอเดียที่น่
กลุ่ม เรามี 5 คนครับ เป็น Business ชาวต่างชาติหมดเลย 4 คน และแอดมินตัวน้อย ๆ เป็น Developer คนเดียวครับ Designer ก็ไม่มี ชีวิตดีสุด ๆ สุดท้ายมาทำโลโก้ ทำภาพแบนเนอร์เองด้วย ใช้ความรู้ Developer มาก ๆ (กัดฟัน) โดยชื่อกลุ่มตอนแรกคือ Bakana แปลว่า “การเรียนรู้” ในภาษาอะไรสักอย่าง สุดท้ายเปลี่ยนชื่อมาเป็น Go Sensei ครับ
เรา ก็พูดคุยกันเล็ก ๆ น้อย ๆ เตรียมวางแผนว่าพรุ่งนี้
เพราะ ฉะนั้นแผนของเรา คือ วันเสาร์จะไปคุยกับธุรกิจสอนต่
แผน ฟังดูดีมากครับ ผมตื่นเต้นมาก ติดปัญหาอย่างเดียวคือเป็นฝรั่
พอสักเที่ยงคืนก็แยกย้ายกันกลับ ครับ งานนี้สามารถนอนค้างคืนที่ Hubba ได้เช่นกัน มีห้องอาบน้ำเตรียมไว้ให้ด้วย แต่แอดมินไม่ได้เตรียมเสื้อผ้
วันที่ 2 : (พยายาม) ทำ Validation และ MVP
สำหรับคนที่อาจจะงงกับคำว่า MVP คือ Minimum Viable Product หรือพูดง่าย ๆ คือ การทำตัวอย่างที่สามารถใช้ได้
ตอน เช้าเราก็กลับมาทำงานกันต่อครับ ข้อดีอย่างหนึ่งของงาน Startup Weekend คือ มีอาหารและขนมให้กินตลอด ไม่ต้องออกไปไหนเลย มีกาแฟ น้ำอัดลม น้ำเปล่าให้หยิบได้เรื่อย ๆ ด้วย ต้องขอขอบคุณสปอนเซอร์ใจดีมา ณ ที่นี้ครับ
ตอน เช้าใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกั
ทำ Marketing อย่าตั้งคำถามว่าจะทำ Offline หรือ Online แต่ให้ดูว่ากลุ่มลูกค้
าของเราอยู่ที่ไหน แล้วไปทำ Marketing ตรงนั้น
ใน วันที่ 2 นี้จะมี Coach ซึ่งเป็นคนที่มีประสบการณ์
โค้ช แต่ละคนก็ถนัดกันไปคนละแบบครับ ผมมีโอกาสได้คุยกับคุณ Lam You Teck ซึ่งเป็น Head of Performance Marketing ของ Hotel Quickly เป็น Startup แอพจองโรงแรมบนมือถือ แอดมินความรู้เรื่อง Marketing ต่ำต้อยมาก พอไปคุยแล้วได้อะไรใหม่ ๆ เยอะ ถึงกับต้องขอจดเลยทีเดียว
ที่ชอบมากที่สุดคือตอนที่
นอกจาก นั้นก็มีโอกาสได้คุยกับเจ้
หลังจากที่คุยกับโค้ชมาหลายคนก็
โค้ชคนสุดท้าย คือ คุณ Maxim Titov เป็นเจ้าของเว็บไซต์ Tickets.co.th เป็นคนหน้านิ่ง ๆ พูดเรียบ ๆ แต่โหดร้ายเหมือนครูสอนภาษาอั
เค้าเปิดเว็บไซต์ หนึ่งให้ดู เป็นเว็บรวมแหล่งเสริมสวยในไทย มีทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ซึ่งคุณ Maxim รู้จักกับเจ้าของเว็บไซต์ เค้าบอกว่า “คุณรู้มั้ย เว็บนี้ไม่มีกำไรเลย ขนาดตลาดแหล่งเสริมสวยที่มีอยู่
แค่นั้นแหละครับ มึนกันไปทั้งทีม ได้เรียนรู้เรื่อง Market Size ว่า การจะทำ Startup ถ้าตลาดไม่ใหญ่จริงก็ไม่มีนั
ถ้าเกิดตลาดของคุณมีเงินไหลต่
อปีทั้งหมด $10,000 คุณเอากำไร 10% ได้แค่ $1,000 ธุรกิจมันจะอยู่รอดได้เหรอ
กลับ มานั่งมึน ๆ ที่โต๊ะต่อ ไม่รู้ว่าควรจะเปลี่ยนไอเดี
ตอน แรกผมว่า Pivot ว่า ไพ-หวอต ครับ แต่เจอคุณลุงในทีมมาจาก Canada พี่แกอ่านว่า พิ-เหว็ต ตอนแรกถึงกับงงเลยว่าเค้าหมายถึ
จนถึง ประมาณสี่ห้าทุ่มก็ไม่รู้
ส่วนเรื่อง Validation ที่วางแผนไว้ตอนวันที่ 1 อย่างดีก็ล่มครับ เพราะสรุปไอเดีย Business Model ไม่ได้สักที
วันที่ 3 : Pitch ต่อหน้ากรรมการ
วัน นี้เป็นวันสุดท้ายแล้วครับ พอ Ton มาถึงตอนเช้าเค้าก็บอกว่า เฮ้ ยู ไอคุยกับมายเฟรนด์มาลาสไนท์ ได้นิวไอเดียล่ะ (จริง ๆ พูดอังกฤษหมดนะครับ ผมเอามาแปลเป็นไทยกฤษเฉย ๆ) แล้วก็เล่าว่าทุกปี บริษัทใหญ่ต่าง ๆ จะส่งพวกผู้บริหารระดับ C-Level (CEO, CFO, CTO etc.) ไปพักผ่อนประมาณ 2 อาทิตย์ต่อปี ซึ่งเราจะเน้นกลุ่มบริษัทที่ไม่
สิ่งที่ Go Sensei จะทำ คือ จัดทัวร์พิเศษที่ผู้บริหารพวกนี
ทั้งทีมเห็นด้วยหมด ก็เลยเริ่มปรับเว็บไซต์ให้เข้
จากนั้น Ton ก็ทำ Presentation จนถึง 4 โมงเย็น ก็แยกย้ายไปกินข้าวเย็นและเริ่ม Pitch ตอน 5 โมงกว่า ๆ – 6 โมงครับ
การ Pivot ไอเดียเป็นเรื่องธรรมดามากสำหรั
บ Startup เพราะแม้แต่ Instagram กว่าจะมาเป็นแอพโพสรูปก็เคยเป็ นแอพ Check in สถานที่มาก่อน
กรรมการ มี 5 คนครับ เป็นคนที่อยู่ในวงการ Startup ทั้งสิ้น โดยแต่ละทีมมีเวลาให้ Pitch ทั้งหมด 5 นาที และกรรมการจะถามต่ออีกประมาณ 5 นาทีครับ ซึ่งกลุ่มผมก็ได้ Pitch เป็นกลุ่มที่ 5 (สังเกตว่าย่อหน้านี้มีเลข 5 หมดเลยแบบไม่ได้ตั้งใจ)
มี หลายกลุ่มที่ตอน Pitch วันนี้ไอเดียคนละเรื่องกับวั
ไอเดียอันที่ผมคิดว่าน่าสนใจดี
หลัง จากแต่ละกลุ่ม Pitch กันเสร็จแล้วก็ได้
Startup Weekend Bangkok : Travel Edition รางวัลที่ 3 ชื่อ Speak Map เป็นแอพพาเที่ยวพร้อมมีเสี
ต่อมาคือ รางวัลที่ 2 ได้รับรางวัล 2 ทีมครับ คือ Trip99 เว็บขาย Deal ที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวทุ
สุดท้าย รางวัลที่ 1 คือ InterCoin เป็นเครื่องสำหรับใส่เหรี
หลังจากประกาศรางวัล ก็มีจัด Afterparty อาหาร เครื่องดื่มเยอะแยะมากมาย ก็พูดคุยแลกเปลี่ยนนามบัตรกั
ได้อะไรบ้างจากงาน Startup Weekend Bangkok : Travel Edition
มิตรภาพ… อันนี้คือพูดแบบเอาหล่อ หรือถ้าเป็นคำทางการ เราเรียกว่า “Connection” นั่นเองครับ แอดมินดีใจน้ำตาจะไหลมาก เพราะทำนามบัตรมาเป็นปีแล้ว เพิ่งจะได้แจกจริง ๆ จัง ๆ ในงานนี้ เวลามีคนขอนามบัตรแทบจะหยิบให้ 10 ใบเลย
ในงานนี้จะได้เจอคนอยากทำ Startup มากมาย ใครอยากหา Co-Founder มางานนี้ไม่ผิดหวัง นอกจากนั้นยังมีเจ้าของธุรกิจอี
การได้พูดคุยกับ Coach แต่ละท่านก็ได้ความรู้เยอะแยะที
อ้อ ทาง Hubba ใจดีแจกคูปอง Membership Hubba มาให้ 1 เดือนด้วยครับ ส่วนคนชนะก็จะได้คูปอง 6 เดือน (รางวัลที่ 1) กับ 3 เดือน (รางวัลที่ 2 กับ 3) มูลค่าเดือนละ 3000 กว่าบาท เพราะงั้นไม่ต้องกลัวว่าเงินที่
ส่วน ถ้าใครเลือกไม่ถูกว่าจะไป Startup Weekend ที่กรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่ดี ผมแอบได้ยินมาว่าตอนจัด Startup Weekend ที่เชียงใหม่คนไม่ค่อยคุยกัน และ Designer เยอะมาก ส่วนจัดที่กรุงเทพฯ ตรงข้ามกันเลยครับ คนคุยกันเสียงดัง และ Designer แทบไม่มีเลย (ผมเลยกลายเป็น Developer ที่ออกแบบ Logo นี่แหละ)
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Hubba และทีมงาน Startup Weekend Bangkok : Travel Edition ทุกคนครับ และสปอนเซอร์ทุกท่านที่ทำให้เกิ