Site icon Thumbsup

Facebook กับการโฆษณา 2 ประเภทที่นักการตลาดไม่ควรมองข้าม

Facebook หนึ่งในโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในการเป็นสื่อกลางการโฆษณาต่างๆ ไปยังผู้ใช้งานที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย โดยธุรกิจไม่ว่าจะขนาดเล็ก หรือใหญ่ต่างก็หันมาจัดสรรงบประมาณเพื่อการทำการตลาดผ่าน Facebook กันแทบทั้งนั้น ทั้งเพื่อเพิ่มยอดการกด Like และสร้างรายได้ให้ธุรกิจของพวกเขา

อย่างที่ผู้ใช้งาน Facebook คุ้นเคยดี โฆษณาต่างๆ บน Facebook ได้ปรากฏให้เห็นได้หลายรูปแบบทั้งบนแถบโฆษณาด้านข้าง และแบบที่ปรากฏบน News Feed ซึ่งนักการตลาดจะสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายที่พวกเขาต้องการให้โฆษณาของพวกเขาตามพฤติกรรมการใช้งานสื่อออนไลน์ได้อีกด้วย เช่น หากผู้ใช้งานคนนั้นเป็นคนที่ชอบซื้อของผ่านเว็บไซต์ โฆษณาที่พวกเขาเห็นบน Facebook อาจมาจากเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซรายอื่นๆ หรือที่เดิมก็เป็นได้

แม้ Facebook จะเป็นสื่อกลางการโฆษณาที่ได้รับความนิยมมานานแล้ว แต่ก็ยังมีวิธีการโฆษณาอื่นๆ ที่เหมาะสมกับธุรกิจของพวกเขาที่น่าสนใจอีก 2 อย่างได้แก่

1. การใช้โฆษณาบน Facebook เพื่อการประกาศหาผู้ร่วมงาน

สำหรับการใช้งานดังกล่าว นักการตลาดสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายจากกลุ่มอาชีพของพวกเขาได้ เช่น ผู้ใช้งานที่ประกอบอาชีพเกี่ยวกับกลุ่มยาและการแพทย์ เช่น พยาบาล ศัลยแพทย์ นักกายภาพบำบัด ฯลฯ อาจจะเป็นกลุ่มเป้าหมายของโฆษณาประเภทเครื่องมือแพทย์ หรือบริษัทจัดหางานที่ต้องการหาบุคลากรให้โรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งคล้ายคลึงกับการใช้งานบน LinkedIn ซึ่งการโฆษณาดังกล่าวจะทำให้เกิดเป็นการโฆษณาแบบ Business to Business ได้อีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตามสำหรับการโฆษณาผ่าน Facebook ในลักษณะดังกล่าวนั้นยังเป็นรองจาก LinkedIn อยู่มาก เนื่องด้วยผู้ใช้งานหลายๆ คนไม่ได้แจ้งถึงอาชีพของตัวเองบน Facebook ทำให้การโฆษณาแบบเลือกลุ่มเป้าหมายจากอาชีพของผู้ใช้งาน Facebook นั้นไม่กว้างขวางเท่าที่ควร

2. การโฆษณาแบบ Video Ad

เชื่อว่าผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ อาจจะเคยเข้าเว็บไซต์ที่มีการเล่นโฆษณาแบบอัตโนมัติแบบ 15 วินาที แบบไม่มีเสียง ซึ่งจากนี้ไปนักการตลาดที่ใช้ Facebook จะสามารถโฆษณาลักษณะดังกล่าวได้เช่นกัน ต่างจากโฆษณาแบบเดิม Facebook เชื่อว่าการโฆษณาลักษณะดังกล่าวจะสามารถดึงความสนใจจากผู้ใช้งานได้อย่างแน่นอน สำหรับฟังก์ชันดังกล่าวทาง Facebook กำลังทดสอบการโฆษณากับกลุ่มแบรนด์ต่างๆ ที่พวกเขาเลือก โดยแบรนด์หรือองค์กรนั้นๆ ต้องยินยอมให้ Facebook เก็บข้อมูลว่าวิดีโอของพวกเขาได้ผลดีหรือไม่ และ Facebook นั้นจะต้องสามารถเข้าถึงเนื้อหานั้นๆ ก่อนปล่อยสู่สาธารณะได้อีกด้วย

สำหรับข้อจำกัดในการโฆษณาแบบ Video Ad บน Facebook นั้้น คือ  วิดีโอนั้นต้องมีคุณภาพสูง และตรงกับข้อกำหนดอื่นๆ ของ Facebook ซึ่งในกรณีนี้อาจทำให้นักการตลาดต้องใช้งบประมาณในการผลิตเนื้อหาสูง อีกทั้งผู้ใช้งานอาจไม่ชื่นชอบที่วิดีโอเล่นเองแบบอัตโนมัติบน Facebook มากนัก และสำหรับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตที่มียอดการใช้งานแบบจำกัดพวกเขาอาจไม่ชอบใจที่ต้องจ่ายเงินเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มเพราะวิดีโอจากโฆษณา

อย่างไรก็ตามการโฆษณานั้นมีอยู่หลายช่องทางทั้งบนสื่อออนไลน์ และสื่ออื่นๆ การเลือกใช้งานสื่อต่างๆ นั้นจึงขึ้นอยู่กับข้อจำกัด และการตัดสินใจของนักการตลาดว่ามีความเหมาะสมกับธุรกิจของตัวเองหรือไม่?

ที่มา : Business 2 Community

ภาพ : Searchenginemag