คนที่ลงโฆษณาบน Facebook คงพอจะทราบถึงกฎที่ใช้กับภาพในการลง Ads ว่าไม่ให้มีข้อความเกิน 20% โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Grid Tools หรือตารางเสมือนที่ตีลงบนภาพเพื่อดูว่ามีส่วนไหนที่มี Text อยู่ แต่สิ่งเหล่านี้กำลังจะหายไปเมื่อ Facebook กำลังจะเปลี่ยนการพิจารณาโดยเอา Grid และ 20% ออกไป แล้วใช้การแบ่งเกรดแทน และมีผลกับ Reach ด้วย
กฎ 20% ถูกยกเลิกไปตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา หลายคนอาจจะดีใจว่ายกเลิกแล้วจะทำอะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่ครับ เพราะ Facebook ได้เปลี่ยนแปลงลักษณะการพิจารณาโฆษณา โดยจะไม่มีการตี Grid แล้ว แต่จะเป็นการพิจารณาภาพโดยรวมทั้งหมดแล้วแบ่งออกเป็น 4 หมวดหมู่ ซึ่งผมใช้คำว่าการตัดเกรดก็คงไม่แปลกอะไร โดย 4 หมวดมีดังนี้
- Image Text: OK – ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นรูปที่ไม่มีข้อความเป็นส่วนประกอบหรือจะมีก็น้อยมากๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นโลโก้ที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก หากเป็นอย่างนี้ลงได้สบายมาก
- Image Text: Low – มีข้อความเป็นส่วนประกอบอยู่บ้าง ซึ่งถ้าหากดูจากตัวอย่างแล้วก็น่าจะอยู่ราวๆ ในช่วง 20% เหมือนมาตรฐาน 20% หากเป็นเช่นนี้ก็จะยังผ่านอยู่ แต่ก็จะถูกกรองออกอีกทีนึง
- Image Text: Medium – ข้อความเพิ่มขึ้นมาอีกนิดนึงจาก Low โดย Reach ที่ได้ก็จะต่ำลงกว่าเดิมอีก
- Image Text: High – ขั้นร้ายแรงคือ Text เยอะเกินไป ด้วยความร้ายแรงอย่างนี้ Reach จะโดนจำกัดขั้นสูงสุด
หากเราสังเกตดูจะพบว่า ตัวโลโกก็มีผลในการคิดแล้ว จากแต่ก่อนที่ Facebook ไม่นับเป็น Text และนอกเหนือจากโลโก้แล้ว ยังมี Watermark หรือลายน้ำ และตัวเลข ซึ่งถ้าใส่ไปจะมีการนับเป็น Text ทั้งหมด
สิ่งที่ Facebook เอามาบอกถึงการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ก็คือ แม้จะเปลี่ยนกฎให้ 20% มีความยืดหยุ่นในการนำเสนอด้วยข้อความมากขึ้นกว่าเดิม แต่ในการยืดหยุ่นนั้นก็เป็นการเน้นให้ผู้ลงโฆษณาหันมาเอาใจใส่กับการสื่อสารผ่านรูปภาพมากกว่าข้อความ ด้วยการควบคุม Reach ที่ถึงแม้จะจ่ายเงินลงโฆษณาแต่ก็ถูกจำกัดจำนวนหากว่าไม่ทำตามสิ่งที่เขาอยากจะให้เป็นนั่นเอง
ที่มา: wersm
ปล.ขณะที่เขียนข่าวนี้ หน้าจอ Grid Tools ของ Facebook ก็ยังคงเปิดให้เข้าใช้งานตามปกติอยู่