ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา Facebook จะใช้ข้อมูลที่รวบรวมมาจากผู้ใช้งานสำหรับเครือข่ายการโฆษณาแบบใหม่ที่เรียกกันว่า Atlas ซึ่งจะติดตามคุณไปทุกที่แม้แต่ในที่ที่ไม่ใช่ Facebook ขึ้นอยู่กับว่า Facebook รู้อะไรเกี่ยวกับคุณบ้าง นี่คงเป็นข่าวดีของนักโฆษณาและธุรกิจ แต่อาจจะไม่ใช่ข่าวที่ดีเท่าไรนักสำหรับผู้ใช้งานที่ห่วงเรื่องข้อมูลส่วนตัว
ข้อมูลจาก Mashable บอกว่าเดิมที Atlas เป็นของ Microsoft ที่ Facebook จ่ายเงินไปประมาณ 3,000 ล้านบาทเพื่อซื้อมาปรับปรุงใหม่ตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่ง Atlas จะต่างจาก Audience Network ที่ Facebook เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดย Audience Network จะมีนักพัฒนาแอปพลิเคชั่นเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
สำหรับ Atlas ถือเป็นอีกประเภทหนึ่งของ Google Adwords ซึ่งจะทำให้นักโฆษณาสามารถติดตามผู้ใช้งานแบบข้ามแพลทฟอร์มได้ไม่จำกัดว่าจะเป็นในเว็บไซต์และบนโมบายล์ เช่น เราอาจจะเห็นโฆษณาน้ำอัดลมบนเว็บไซต์กีฬาหรือแอปพลิเคชั่นเกมที่ดูเหมือนจะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ Facebook เลยก็ได้
ในบล็อกของ Erik Johnson จาก Atlas เขียนเอาไว้ว่า Atlas คือการก้าวข้ามข้อจำกัดของ Cookies ที่เปรียบเสมือนยานพาหนะในการติดตามผู้ใช้งานเพื่อที่จะพาโฆษณาไปพบกับกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่ง Cookies ไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพบนโมบายล์ Erik บอกว่ามันไม่สามารถระบุกลุ่มเป้าหมายในเชิงประชากรศาสตร์ได้อย่างแม่นยำ และมันไม่ง่ายเลยที่ประเมินผลว่าทำให้เกิดการซื้อหรือไม่ ทั้งในเว็บบราวเซอร์ อุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือในโลกออฟไลน์ ดังนั้น Atlas จึงเป็นโซลูชั่นที่เหมาะสม เพราะเป็นระบบ people-based marketing
ฟังดูแล้วก็น่าจะสร้างความกระอักกระอ่วนใจให้กับผู้ใช้งานที่กำลังสงสัยว่า Facebook เอาข้อมูลของเราไปใช้ทำอะไรบ้าง ซึ่งหลายๆ คนก็คงจะทราบดีอยู่แล้วว่าข้อมูลของเรากลายเป็นทางเลือกใหม่ให้กับนักโฆษณาและ Google และแน่นอนว่าคงจะไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่ๆ ตามที่ Re/code รายงานว่า Facebook กำลังอยู่ในช่วงเจรจากับ twitter เกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ ดูเหมือนว่าจะมีความเป็นไปได้ซะด้วย
ผู้อ่านคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้บ้างคะ ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้หวงข้อมูลส่วนตัวบนอินเทอร์เน็ตเท่าไร แต่รู้สึกเหมือนถูกละเมิดอย่างไรชอบกล ใครที่คิดว่าใช้ Facebook ฟรีๆ คงต้องคิดใหม่ เพราะมันแลกมาด้วยข้อมูลส่วนตัวของเราที่มีมูลค่ามหาศาลสำหรับนักโฆษณา