เฟซบุ๊ก (Facebook) เครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซื้อโฆษณาลงในหนังสือพิมพ์ New York Times, the Washington Post และ the Wall Street Journal วิจารณ์แอปเปิล (Apple) กรณีปรับนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy) ของระบบ IOS
โดยนโยบายดังกล่าวส่งผลให้ระบบ Audience Network ของเฟซบุ๊กสามารถระบุกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำน้อยลง หมายความว่าระบบโฆษณาของเฟซบุ๊กจะมีประสิทธิภาพน้อยลง
นักพัฒนาระบบ ระบุว่า IOS 14 ปิดกั้นไม่ให้แอปพลิเคชั่นต่างๆ สามารถติดตาม (Track) ผู้ใช้งานได้จาก IDFA (identifier for advertisers) โดยหลังจากนี้แอปฯ จะสามารถเข้าถึง IDFA ได้ก็ต่อเมื่อผู้ใช้อนุญาตก่อนเท่านั้น
ด้านเฟซบุ๊ก วิจารณ์ว่าการปรับเปลี่ยนนโยบายของแอปเปิลในครั้งนี้ ‘ทำลายธุรกิจขนาดเล็ก’ ซึ่งส่งผลต่อยอดขายของธุรกิจขนาดเล็ก เฟซบุ๊กระบุว่า ‘เรารับรู้ถึงความกังวลของคุณ (ธุรกิจขนาดเล็ก) และเราอยู่เคียงข้างคุณ’
I’m pretty certain #Facebook is fighting #Apple to retain access to personal data. #PID #privacy. #fullpagead #wsj pic.twitter.com/029WwaGSs0
— Dave Stangis (@DaveStangis) December 16, 2020
ส่วนด้านแอปเปิลไม่ได้โต้ตอบต่อโฆษณาในหนังสือพิมพ์โดยตรง แต่ Tim Cook ซีอีโอแอปเปิลได้ชี้ว่า แพลตฟอร์มมักไม่คำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยยืนยันว่านโยบายความเป็นส่วนตัวของ IOS 14 จะบังคับใช้ตั้งแต่ต้นปี 2564
We believe users should have the choice over the data that is being collected about them and how it’s used. Facebook can continue to track users across apps and websites as before, App Tracking Transparency in iOS 14 will just require that they ask for your permission first. pic.twitter.com/UnnAONZ61I
— Tim Cook (@tim_cook) December 17, 2020
