ยุคนี้กลายเป็นยุคที่คนไม่ได้จับรีโมทเพื่อดูโทรทัศน์ แต่กลับถือโทรศัพท์หรือใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์ไปพร้อมๆ กับการชมรายการที่ชื่นชอบ ตัวอย่างในบ้านเราที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ ซีรีส์ฮอร์โมน ถ้าอินเตอร์ขึ้นมาหน่อยก็ The Voice Thailand เมื่อคนร้องจบ หรือมีช่วงตบ เอ้ย ช่วงพีคของซีรีย์ เมื่อกวาดไปดูช่องทางออนไลน์ล้วนแล้วแต่มีการพูดถึงทันที (ขอยก 2 ตัวอย่างนี้เนื่องจากผู้เขียนคลั่งเป็นการส่วนตัว)
วกกลับมาเรื่องการมีปฏิสัมพันธ์หรือ Engagement ที่ว่าไปข้างต้น มันเกิดจากการที่คนยุคนี้ที่เสพย์ข้อมูลพร้อมๆ กันหลายๆ หน้าจอ หรือ Multi-screen สิ่งที่ได้คือการโต้ตอบแบบทันที แทบจะ Real-Time
และสิ่งนี้ Facebook เล็งเห็นเครื่องมือที่จะเอามาเสริมให้กับรายการโทรทัศน์เพื่อให้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมได้มากกว่าเดิม โดยการเข้าไปใน 3 Areas ได้แก่ Engage, Decide และ Display ด้วยความร่วมมือกันจากหลายๆ บริษัทที่มาเป็นพันธมิตรด้วย (ญาติเยอะยิ่งกว่ายุ้ย) มาดูกันทีละอันครับ
Engage
มีการพูดถึง 5 ตัวช่วยในหัวข้อนี้
แอปอัปโหลดรูปและวิดีโอ – เป็นการเปิดให้ผู้ชมสามารถส่งภาพหรืออัปโหลดวิดีโอผ่านแอปใหม่จาก Telescope ซึ่งจากตัวอย่างกรณีที่หยิบขึ้นมา หากว่ามีรายการนึงต้องการให้คนทางบ้านส่งถามคำถามกันสดๆ ที่เราเห็นอยู่บ่อยๆ ก็คือ โทรเข้าไป Phone-in หรือส่ง SMS แต่สำหรับสิ่งที่ Facebook ทำได้คือเปิดแอปขึ้นมาเพื่อให้คนทางบ้านถ่ายวิดีโอเพื่อถามคำถามด้วยตัวเอง จากนั้นก็อัปโหลดขึ้นไปเลย ทางรายการก็จะเลือกคำถามนั้นออกอากาศเดี๋ยวนั้นทันทีดังตัวอย่างในวิดีโอ
Immigration, national security, the economy… What do you want to ask the 2016 presidential candidates? Submit a video with your question by clicking here: http://bit.ly/1H4seMV YOU could be featured during the Fox News-Facebook debate August 6th on Fox News Channel.
Posted by Fox News on Wednesday, July 29, 2015
ไอคอนเฉพาะรายการ – หรือสัญลักษณ์ที่จะเป็นสิ่งที่สื่อตัวแบรนด์หรือละครนั้นๆ ได้เลย ซึ่งโดยปกติแล้วเราจะได้ใช้งานไอคอนที่มากับทาง Facebook เท่านั้น หมายความว่าเราก็จะสามารถเปิดให้คนทั่วไปบอกสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของรายการนั้นๆ เพื่อบอกคนอื่นได้ผ่าน Status
เปิด Comment ระหว่างออกอากาศสด – ด้วยความร่วมมือกันระหว่าง Spredfast and Vidpresso ทำให้เจ้าของรายการสามารถตั้งคำถามและเอา Comment ต่างๆ มาแสดงผลในระหว่างการออกอากาศได้ทันที
การปล่อยวิดีโอของรายการขึ้นบน Facebook – จากการที่ Facebook ดันเรื่องวิดีโอแบบเต็มตัวในช่วงปีนี้ ทำให้เขาเห็นช่องทางที่จะช่วยให้ผู้ผลิตรายการสามารถนำคลิปรายการต่างๆ เอาขึ้นมาบน Facebook โดยตรงผ่าน API ซึ่ง Facebook เองก็ได้เปิดตัวพันธมิตรอย่าง Grabyo and WhipClip ในงาน F8 ซึ่งทั้ง 2 เจ้าเป็นตัวช่วยให้การถ่ายทอดสามารถตัดส่วนที่ต้องการแล้วเอาขึ้นบน Facebook ไปได้เลยแบบสดๆ
ตัวสุดท้ายคือ Mentions ซึ่งเป็นเครื่องมือที่สำหรับเปิดตัวไปแล้วให้กับเหล่าเซเลปทั้งหลาย สิ่งนี้ผู้ผลิตรายการน่าจะได้ใช้ด้วย รวมไปถึงการเอาบริการ BumeBox มาเป็นเครื่องมือสำหรับการทำ Q&A ได้ด้วย
Decide
Vote และ Poll ช่วงแรกๆ ของ Facebook จะมีการเปิดให้ใช้งาน Vote และการตั้ง Poll แต่ก็มีการยกเลิกไป ใช้ได้แค่ใน Group เท่านั้น ตอนนี้มันกลับมาใหม่ เปิดให้ใช้งานกับรายการโทรทัศน์ ด้วยการเปิดให้โหวตและการทำ Poll แต่เป็นรูปแบบที่น่าสนใจ
การ Vote จะใช้เป็น Hashtag Voting ด้วยการนับคะแนนการโหวตผ่าน Facebook Post และ Comment ด้วยการบริการของ Telescope
ส่วน Poll ก็เป็นการโหวต ซึ่งจะแสดงผลโหวตแบบ Real-Time
Display
กล่าวโดยรวมๆ ก็คือ Facebook จะดึงเอาข้อมูลจากการโพสต์ลงใน Facebook และ Instagram มาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง Content ในรายการขึ้นมา ด้วยการมี Template เฉพาะซึ่งสามารถปรับแต่งได้ตามใจในการเลือกสิ่งที่อยากจะนำออกอากาศหรือนำเสนอได้ง่ายขึ้น ลดขั้นตอนในการทำลงจากที่มีอยู่ในปัจจุบัน พร้อมกับการกรองข้อมูลจากคนที่ได้รับการยืนยันตัว (พวกดารา, เซเลป, รายการต่างๆ) เพื่อให้สามารถคัดกรองและดึงขึ้นมาแสดงได้รวดเร็วขึ้น
ทั้งหมดคือสิ่งที่ Facebook พูดถึงเครื่องมือ เราเห็นได้ชัดเจนว่ามันไม่ใช่แค่มีข้อความของโคช The Voice ที่ผ่านการตั้งเวลาแล้วขึ้นแสดงให้เห็นบนหน้าจอพร้อมกับบน Timeline ของเขา แต่นี่คือสิ่งที่จะทำให้คนที่เป็นผู้ชมที่ถึงแม้จะมีคนบอกว่าคนดูทีวีน้อยลงยังคงสามารถติดตามไปพร้อมๆ กับการโต้ตอบกับรายการและเห็นสิ่งที่ส่งไปได้ ด้วยเครื่องมือที่ทาง Facebook ทำมาเป็น Solution สำหรับผู้ผลิตรายการ ก็จะทำให้ทั้งคนทำและคนชมให้ความสนใจมากขึ้นไปด้วยนั่นเองครับ
คนที่รวย ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนครับ… Facebook
ที่มา: Facebook Media, ภาพจาก AdWeek