ในสถานการณ์ที่คนไทยนิยมช้อปปิ้งออนไลน์มากขึ้น ทำให้ร้านค้ารายย่อยที่เพิ่งปรับตัวมาขายบนออนไลน์เช่นกัน อาจยังไม่เข้าใจหรือมีเงินทุนมากพอที่จะนำมาใช้ในการลงโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก นั่นจึงทำให้ Facebook ประเทศไทย ประกาศโครงการริเริ่มเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กในประเทศไทย เพื่อให้สามารถฟื้นตัวได้ในขณะที่ยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านเศรษฐกิจจากโรคระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก
สำหรับโครงการใหม่ๆ ที่ Facebook ประเทศไทยได้ริเริ่มขึ้น ยังรวมถึงโครงการมอบเงินทุนสนับสนุนมูลค่า 40 ล้านบาทสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยในเขตกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยการเปิดตัว Facebook Business Suite ตัวช่วยด้านธุรกิจเพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยสามารถสร้างธุรกิจให้เติบโตได้จากการบริหารจัดการเพจและโปรไฟล์ผ่านแอปพลิเคชันที่หลากหลายของ Facebook ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้นในที่เดียว
จากรายงานสภาวะของธุรกิจขนาดเล็กในการสำรวจช่วงที่ 3 ซึ่งเป็นรายงานที่จัดทำขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยธนาคารโลก องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ร่วมกับ Facebook เพื่อสำรวจธุรกิจขนาดเล็ก พบว่าราวร้อยละ 39 ของผู้ประกอบการรายย่อยในไทยที่ตอบแบบสำรวจคาดว่า กระแสเงินสด (cash flow) จะเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งที่ต้องประสบในไม่กี่เดือนข้างหน้า ในขณะที่ร้อยละ 38 ของผู้ร่วมให้ข้อมูลกล่าวว่าพวกเขาได้ลดจำนวนพนักงานหรือคนงานลงเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19
คุณชวดี วงศ์พยัต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาการเติบโตธุรกิจประจำ Facebook ประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่ Facebook ประเทศไทย ได้ริเริ่มกิจกรรม #SupportSmallBusiness ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เราพบว่าธุรกิจขนาดเล็กจำนวนมากยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่นี้
โดยผู้ประกอบการหลายรายได้ทุ่มเทสุดกำลังเพื่อปรับตัวและหันมาใช้ช่องทางออนไลน์ หลังจากที่ได้รับฟังถึงความท้าทายต่างๆ ที่ผู้ประกอบการรายย่อยเหล่านี้ต้องเผชิญ เราจึงมุ่งช่วยเหลือให้พวกเขาสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น รวมถึงให้การสนับสนุนด้านเงินทุน ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยให้พวกเขาปรับปรุงพัฒนาธุรกิจและฟื้นตัวกลับมาได้ใหม่ท่ามกลางช่วงเวลาที่ยากลำบาก
Facebook ประเทศไทย ได้จัดตั้งโครงการมอบเงินสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยในกรุงเทพฯ ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 โดยเป็นหนึ่งในโครงการมอบเงินทุนช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกและมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ระบุจะได้รับเงินทุนสนับสนุนมูลค่ารวมโดยประมาณ 89,000 บาท
ประกอบด้วยเงินสด 55,600 บาท และเครดิตโฆษณา (ad credit) จำนวน 33,400 บาท ทั้งนี้ หากธุรกิจเลือกขอรับเครดิตโฆษณาด้วย ธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกไม่จำเป็นต้องมีบัญชีหรือเพจบน Facebook เพื่อลงทะเบียนสมัครเข้ารับการสนับสนุนดังกล่าว
หลักเกณฑ์การสมัคร
ธุรกิจขนาดเล็กในประเทศไทยที่ต้องการสมัครเพื่อรับเงินสนับสนุน ต้องผ่านเกณฑ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้
- เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19
- มีพนักงานตั้งแต่ 2-50 คน นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563
- ประกอบธุรกิจมานานกว่า 1 ปี
- เป็นองค์กรธุรกิจที่หวังผลกำไร
- ดำเนินงานอยู่ในเขตกรุงเทพฯ เท่านั้น
ผู้ที่สนใจสามารถสมัครได้ตั้งแต่วันที่ 6-12 ตุลาคม 2563 สามารถดูรายละเอียดและลงทะเบียนสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/business/small-business/grants
เครื่องมือเพื่อช่วยเหลือธุรกิจรายย่อยในการปรับตัว
นอกจากนี้ Facebook ประเทศไทย ยังได้เปิดตัว Facebook Business Suite อินเทอร์เฟสที่ทำงานครอบคลุมแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจในไทยสามารถจัดการช่องทางการดำเนินงานบนแอปพลิเคชันในเครือ Facebook ได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้นในที่เดียว โดยสามารถเลือกใช้เครื่องมือได้ทั้งแบบที่มีค่าใช้จ่ายและไม่เสียค่าใช้จ่าย
การเคลื่อนไหวล่าสุดจาก Facebook ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ธุรกิจจำนวนมากต่างขยับขยายช่องทางการดำเนินงานสู่แพลทฟอร์มดิจิทัลกันมากขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้าในช่วงเวลาที่ท้าทาย โดยร้อยละ 42 ของผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยในประเทศไทยที่ร่วมทำแบบสำรวจในเดือนกรกฎาคมระบุว่า ยอดขายในเดือนที่ผ่านมาจำนวนร้อยละ 25 หรือมากกว่า มาจากแพลทฟอร์มดิจิทัล ทั้งนี้ Facebook Business Suite จะช่วยให้ธุรกิจเอสเอ็มอีประหยัดเวลาและทรัพยากรในการดำเนินงานได้ ในขณะที่ยังสามารถเชื่อมต่อกับลูกค้าและชุมชน
Facebook Business Suite ช่วยให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กสามารถเผยแพร่และจัดการโพสต์ต่างๆ บน Facebook และ Instagram ได้พร้อมๆ กัน ในขณะเดียวกัน ยังสามารถดูข้อความและการแจ้งเตือนได้ในที่เดียว จึงช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามการอัพเดตอยู่เสมอและโต้ตอบกับลูกค้าได้อย่างทันท่วงที ตัวช่วยจัดการเพจ (Page Manager) จะช่วยเก็บข้อมูลเชิงลึกจากทั้ง Facebook และ Instagram ผ่านอินเตอร์เฟสใหม่ เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจถึงความต้องการที่แท้จริงของกลุ่มเป้าหมาย
ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าของธุรกิจรายย่อยยังสามารถไปที่ศูนย์ข้อมูลสำหรับธุรกิจ เพื่อเรียนรู้เคล็ดลับ รายละเอียดเครื่องมือ และเข้าร่วมคอร์สอบรมออนไลน์ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยจะช่วยให้ธุรกิจตื่นตัวและเชื่อมต่อกับลูกค้าอยู่เสมอในช่วงเวลาที่ท้ายนี้ เจ้าของธุรกิจยังสามารถเรียกดูการประชุมออนไลน์ต่างๆ ของ Facebook ได้ฟรี พร้อมเรียนรู้แนวทางการบริหารธุรกิจออนไลน์และการปรับตัวแบบเรียลไทม์
ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการมอบเงินทุนสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กจาก Facebook ประเทศไทย ซึ่งเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 6-12 ตุลาคม 2563 และเกณฑ์การรับสมัครได้ที่ https://www.facebook.com/business/small-business/grants