ด้วยรายได้มากกว่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อไตรมาส สถิติตัวเลขที่อยู่เบื้องหลังยักษ์ใหญ่เครือข่ายสังคมอย่าง Facebook จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจ โดยเฉพาะเรื่องราวเบื้องลึกของการขายโฆษณาบนระบบ Facebook รวมถึงรายชื่อ 10 ผู้ซื้อโฆษณากับ Facebook ทุกอย่างรออยู่แล้วใน Infographic นี้
ในตัวเลขรายได้ 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อไตรมาส Facebook มีเงินไหลมาเทมาจากธุรกิจโฆษณาออนไลน์ บริษัทวิจัยตลาดโฆษณาอย่าง eMarketer ระบุว่าในขณะที่ Google ยังคงครองตลาดโฆษณาออนไลน์ ยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook ก็สามารถครองตลาดโฆษณาออนไลน์อเมริกันได้มากกว่า 6.5% เพิ่มขึ้น 0.6% ที่ทำได้ในช่วงปีที่ผ่านมา
ที่น่าสนใจคือ รายได้ส่วนใหญ่ของ Facebook นั้นไม่ได้มาจากแบรนด์ดังที่มาลงโฆษณาอย่างเดียว แต่มาบริษัทเว็บไซต์อย่าง Fab.com, Zynga และ Groupon แถมเม็ดเงินรายได้หลักของ Facebook กลับมาจากบริษัทที่ให้บริการด้านการเงิน อย่างเช่น American Express
ขณะเดียวกัน แม้ว่า Facebook จะยืนยันมาตลอดว่าจะให้ความสำคัญกับการดึงผู้ใช้โทรศัพท์มือถือในประเทศกำลังพัฒนาอย่างเอเชีย แอฟริกา อินเดีย และอเมริกาใต้ เพื่อให้เป็นผู้ใช้ 1 พันล้านคนถัดไปของ Facebook แต่ในความเป็นจริง Facebook กลับเปิดเผยว่าจำนวนผู้ใช้ Facebook ผ่านอุปกรณ์พกพาเท่านั้นมีเพียง 189 ล้านคนต่อเดือน (monthly active user) ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น้อยและยังไม่เติบโตเท่าที่ควร
ใน Infographic นี้ระบุว่า P&G หรือพร็อคเตอร์แอนด์แกมเบิลคือแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคที่จ่ายเงินโฆษณาให้กับ Facebook มากที่สุด โดยหากแบ่งตามอุตสาหกรรม จะพบว่านอกจากบริการด้านการเงินจะมีการลงโฆษณาบน Facebook มากที่สุด แต่บริการซอฟต์แวร์ บริการรีเทลค้าปลีก และบริการด้านโทรคมนาคม ก็ใช้เงินโฆษณาบน Facebook มากเช่นกัน
ดูเหมือนว่าโฆษณาบน Facebook ควรจะเน้นกลุ่มผู้หญิงเป็นหลัก เนื่องจากการสำรวจพบว่าผู้หญิงมีกิจกรรมบน Facebook มากกว่าชาย โดยเฉพาะการโพสต์ภาพหรือการถูกแทคภาพนั้นชัดเจนว่าผู้หญิงอัปโหลดและถูกติดชื่อมากกว่าชายถึง 2 เท่าตัว
อีกข้อมูลน่าสนใจคือรูปภาพใน Facebook ทั้งชายและหญิงล้วนชื่นชอบการชมภาพผู้หญิงบน Facebook เรียกว่ากลุ่มคนชอบชมภาพผู้ชายยังมีอยู่น้อยในขณะนี้
ส่วนในมุมของเกมฮิต 10 อันดับที่ทำเงินให้ Facebook มากที่สุด ปรากฏว่า 4 เกมเป็นของยักษ์ใหญ่ Zynga ถือว่าสอดคล้องกับการที่ Zynga ครองอันดับ 1 บริษัทที่ทุ่มซื้อโฆษณาบน Facebook มากที่สุด
ที่มา: Venturebeat
