คงไม่ต้องบอกกันว่ายุคนี้ Facebook กลายเป็นแพลตฟอร์มทางการตลาดที่ทรงพลังขนาดไหน เพราะแค่ในไทยเองก็มีผู้ใช้ติดอันดับ 13 ของโลก ด้วยจำนวนตัวเลขที่สูงถึง 18.6 ล้านรายเข้าไปแล้ว
แถมยังมีสถิติที่น่าสนใจอีกว่าผู้ใช้หนึ่งรายใช้เวลาอยู่กับ Facebook นานถึง 7 ชั่วโมง 45 นาทีต่อเดือน โดยเมื่อเทียบกับเว็บไซต์อื่นๆ ถือว่าสูงมาก อันเกิดจากคอนเทนต์ต่างๆ ที่มาจากผู้ใช้เอง รวมถึงเกม ที่มีออกมาอยู่เรื่อยๆ ก็ดึงให้มีสมาธิอยู่กับมันได้นานกว่าเว็บไซต์อื่นๆ แล้ว
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจที่เราจะเห็นแบรนด์สินค้าต่างๆ หันมาใช้ Facebook เป็นเครื่องมือทางการตลาด อย่างไรก็ตามเราอาจคุ้นเคยการลงโฆษณาโดยการเข้าไปที่ Facebook โดยตรงและเลือกไปที่ “Create an advert” หลังจากนั้นเลือกกลุ่มเป้าหมายจากข้อมูลของผู้ใช้ใน Facebook
แต่สำหรับ Facebook Exchange เป็นการเพิ่มโอกาสในการลงโฆษณาอีกรูปแบบหนึ่ง โดยครั้งนี้ทาง Facebook เปิดอีกช่องทางให้พาร์ทเนอร์เข้ามาเชื่อมต่อเพื่อทำการ Remarketing ได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดและทำให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
Facebook Exchange คืออะไร?
เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราขอยกตัวอย่างดังนี้ เมื่อคุณต้องการโปรโมตบริการให้คนเข้ามาซื้อของของคุณจากเว็บไซต์ ซึ่งในตอนแรกผู้เยี่ยมชมอาจยังไม่ตัดสินใจซื้อหลังจากเข้าเว็บไซต์ทันที อย่างไรแล้วคนเหล่านี้คือกลุ่มเป้าหมายของคุณ
เมื่อพวกเขาออกจากเว็บไซต์โดยไม่ได้ซื้ออะไรเลย แต่ด้วยเทคนิคอย่าง Remarketing จะช่วยทำให้คุณยังเชื่อมโยงกับผู้เยี่ยมชมเหล่านี้ได้ในขณะที่กำลังท่อง
อยู่ในเว็บไซต์อื่นๆ อย่าง Facebook โดยจะเห็นโฆษณาจากเว็บไซต์ของคุณที่นั่น
ทีนี้ถ้าโฆษณาดังกล่าวสามารถนำเสนอพวกเขาด้วยข้อความหรือข้อเสนออันน่าสนใจที่จะกระตุ้นให้พวกเขากลับมาสู่เว็บไซต์ของคุณได้ ก็เท่ากับเพิ่มโอกาสในการซื้อสินค้าของคุณนั่นเอง
ตัวอย่างธุรกิจประเภทไหนที่น่าใช้ Facebook Exchange?
ต้องบอกว่าเป็นธุรกิจอะไรก็ได้ที่เน้นการทำธุรกรรมผ่านออนไลน์ ต้องการให้มี Conversion บนเว็บไซต์ปลายทางของท่าน ยกตัวเช่น ธุรกิจการท่องเที่ยว สายการบิน โรงแรม เป็นต้น สามารถสร้างแคมเปญโฆษณามอบส่วนลดกับลูกค้าคนเดิมที่เคยเข้าเว็บไซต์ของคุณมาแล้ว
สรุปประโยชน์และทำไมถึงช่วยแบรนด์ของคุณได้?
- Facebook แพลตฟอร์มการตลาดอันทรงพลัง – แนวคิดด้าน Remarketing ไม่ใช่ของใหม่เสียทีเดียว เพราะเครือข่ายโฆษณาอื่นก็มีการนำกลยุทธ์นี้มาใช้อยู่เรื่อยๆ แต่เมื่อ Facebook เปิดให้แบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าไป Remarketing ได้ จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจมาก เพราะปัจจุบันคนใช้เวลาบนสังคมออนไลน์แห่งนี้นานมากกว่าบริการอื่นๆ นั่นเอง
- โฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น – เนื่องมาจากลูกค้ากลุ่มนี้คือคนที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณมาก่อนแล้ว
- Click-through Rate (CTR) และ Conversion Rate ที่สูงขึ้น – เมื่อกลุ่มเป้าหมายที่ตรงขึ้น ก็เชื่อมโยงมาถึงโอาสที่พวกเขาจะกดโฆษณาและซื้อสินค้าก็สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน
โดยขณะที่บทความนี้ออก ตัวโฆษณาจะอยู่ในส่วนของ Standard Facebook Ads ที่เมื่อเราเปิด Facebook จากเดสทอปเข้าไปจะแสดงอยู่ด้านขวามือของเรา และทาง Facebook เองก็กำลังทดสอบการทำ Facebook Exchange บน News Feed ด้วยเช่นกัน สำหรับใครที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ info@syndacast.com
บทความนี้เป็น Advertorial จาก Syndacast.com