Site icon Thumbsup

“Video” รูปแบบเนื้อหาที่ Facebook ให้ความสำคัญในปีนี้

fb-cta2 (1)

ปกติแล้วเราจะเห็นลักษณะของการโพสต์เนื้อหาบน Facebook เราจะเห็นกันในรูปแบบที่ใช้รูปภาพเป็นหลัก ด้วยเหตุผลความน่าดึงดูดและเป็นที่สนใจต่อผู้ที่อ่านบนหน้า News Feed ที่เป็นพื้นที่ในการช่วงชิงการแสดงผลและเป็นที่ๆ คนจะอยู่กับมันมากที่สุดขณะที่เปิดบน Facebook แต่ในเวลานี้ Facebook ออกตัวช่วยต่างๆ มาดันรูปแบบการโพสต์หนึ่งอย่างชัดเจนในปีนี้ นั่นก็คือการสนับสนุนเนื้อหาที่อยู่ในรูปแบบวิดีโอเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน

ไปที่ไหนก็มีแต่รูป… ใช่ครับ นั่นก็คือสาเหตุเบื้องต้นที่คาดว่า Facebook ดึงความสำคัญให้ลดลงแบบต่ำต้อย

และ Facebook เองก็กลัวที่คนใช้งานจะเบื่อเกินไปกับการประโคมโฆษณาของ Page ต่างๆ เลยมีการจัดการ Algorithm เพื่อแสดงผล ซึ่งทำให้โพสต์ที่มีรูปที่เกิดจาก Page ถูกลดลำดับความสำคัญลงเรื่อยๆ และการเข้าถึงยังผู้ที่เป็นแฟน ที่เข้ามากด Like ก็จะเห็นได้น้อยลง (ปัจจุบันเหลือไม่ถึง 0.5% ในเบื้องต้นแล้ว) ทั้งนี้ก็เพื่อจะเปิดทางให้มีข้อความที่เกิดจากคนถูกแสดงผลมากขึ้น และบีบให้เจ้าของ Page จ่ายเงินเพื่อที่จะเพิ่ม Reach ด้วยนั่นเอง

นั่นจึงเป็นที่มาของการออกตัวเป็น “ป๋าดัน” เนื้อหาเกี่ยวกับวิดีโอเพิ่มมากขึ้นของ Facebook

…ซึ่ง เมื่อมองย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว Facebook เองก็ส่งสัญญาณมาก่อนแล้ว ด้วยการเพิ่มคุณสมบัติ Auto-Play Video บนหน้า News Feed ที่จะเล่นวิดีโออัตโนมัติแบบไร้เสียง ซึ่งมาพร้อมกับการโฆษณาที่มีข่าวลือออกมานานแล้วว่า จะมีโฆษณาในรูปแบบวิดีโอปรากฎขึ้นบน News Feed โดยทาง Facebook (thumbsup เคยเขียนถึงแล้ว) ซึ่งทุกวันนี้ก็มีให้เห็นแล้ว คือไม่จำเป็นต้องเป็นโฆษณาก็เป็น Auto หมดครับ

ในส่วนของการสร้างปุ่ม Call-To-Action สำหรับโพสต์วิดีโอ ก็ถูกเพิ่มขึ้นมาบนเครื่องมือ Power Editor ด้วย (ผมเคยเขียนถึง Power Editor ไปแล้วครับ คลิก) โดยปุ่มเหล่านี้ก็เปรียบเสมือนกับสิ่งที่เราเคยเจอคือ มีปุ่มที่ไหน มันต้องถูกล่อให้ไปคลิกเพื่อดูรายละเอียดหรือสิ่งต่างๆ เพิ่มเติม ใครสนใจก็ลองเข้าไปดูครับที่ Power Editor

นอกจากนั้นแล้ว Facebook ก็ยังเริ่มมีการใส่ปุ่มต่างๆ เพื่อใช้งานเวลาที่อยู่บนโมบายล์ ก็เป็นสิ่งที่เพิ่มขึ้นมา โดยเราสามารถกำหนดปุ่มเหล่านี้ได้จากเครื่องมือ Power Editor ครับ ซึ่งปุ่มเหล่านี้จะเหมือนกับเหยื่อล่อ (Click-Bait) เพื่อให้เราเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม หรือไปที่ช่องทางที่เรากำหนดได้ ซึ่งสำหรับผู้เขียนแล้วจุดนี้น่าจะช่วยได้เยอะครับกับการให้คนคลิก (เห็นปุ่มคนส่วนใหญ่ก็จะอยากคลิกแทบทั้งนั้นครับ)


ล่าสุดที่ Facebook เพิ่มเข้ามาเพื่อเอามาต่อกรกับ YouTube โดยเฉพาะนั่นคือการก๊อบ เอ้ย การนำเอาจำนวน View ขึ้นมาแสดงผลด้วย ซึ่งถึงแม้จะอยู่ในช่วงการทดสอบอยู่ ก็เป็นไปได้สุดๆ ว่ามันจะถูกเอามาใช้งานจริงๆ กับคนทั่วไปอย่างแน่นอน และน่าน่าจะเป็นแผนเด็ดที่จะดึงคนที่ปกติเอาลิงก์วิดีโอที่ใช้งานกับ YouTube มาแปะบน Facebook ให้ให้ไม่ต้องออกไปข้างนอก ทำทุกอย่างให้จบบน Facebook ไปเลยเพราะมีข้อมูลให้ครบ (แต่สุดท้ายส่วนใหญ่ก็ไปลง YouTube เพื่อโฆษณาบน Google Display Networks ด้วยอยู้ดี)

นอกจากตัวเลข View จะเป็นตัวเลขที่ถูกนำเอามาคิดเป็นเป้าหมายในการชม มันยังมีผลการกดชมของผู้มาดูมากพอสมควร เป็นในแง่จิตวิทยายิ่งตัวเลขสูงก็ยิ่งส่งผลให้คนกดชมมากขึ้นด้วย (แม้มันอาจจะไม่มากเท่า YouTube ที่มีฟอนต์ขนาดใหญ่ แต่ก็มีผลแน่ๆ ครับ)

และที่สำคัญ จำนวน Reach ของเนื้อหาที่เป็นวิดีโอก็ไมได้ถูกคิดให้เป็นแบบการโพสต์รูปแต่อย่างใด ดังนั้นจำนวนการแพร่กระจายไปยังคนอื่นๆ ก็มีสูงพอสมควร ซึ่งสูงกว่ารูปเยอะ! ซึ่งก็ชัดเจนว่า Facebook เน้นหนักมากๆ กับเนื้อหารูปแบบวิดิโอแบบเต็มสูบ

มองแนวโน้มวิดีโอใน 1-2 ปีข้างหน้า

สิ่งที่ผมพอจะคาดเดาได้ก็คือ ปีนี้เป็นปีที่ Facebook เตรียมของเตรียมเครื่องมือบางอย่างไว้รอทุกคนแล้ว ปีหน้าและปีถัดๆ ไปน่าจะเป็นปีที่ทุกคนระดม,อัดฉีด พร้อมกับไอเดียที่ครีเอทัฟที่จะเอามาลงในวิดีโอเพื่อให้แบรนด์นั้นเป็นที่น่าจดจำมากขึ้นกว่าเดิม อย่าลืมว่าวิดีโอขนาดสั้นที่เกิดขึ้นจาก Instagram เอง หรือจะเป็น Vine แม้กระทั่ง SocialCam เป็นสิ่งที่ทำมารอไว้แล้ว เหลือแต่ว่าเราจะหยิบเอามาใช้ในแบบไหน?

คิดทำวิดีโอได้แล้วนะ

คนที่เป็นเจ้าของ Page ก็คงต้องกลับมาคิดกลยุทธ์และรูปแบบการโพสต์กันใหม่แล้ว จากเดิมที่ทุกทีจะใช้รูป ก็คงต้องเพิ่มสัดส่วนที่เป็นวิดีโอขึ้นมาด้วย ผมคงแนะนำไม่ได้ว่าจะให้เบนมาวิดีโอ 100% เพราะ resource ที่ใช้นั้นเยอะกว่ามาก และคงไม่คุ้มพอที่จะทำหากทุนไม่หนาพอ

แต่สิ่งที่คุณไม่ควรจะละเลย ไม่ว่าจะทำโพสต์ในรูปแบบไหน ก็คือคุณภาพของ Content ถ้ามันดี ไม่ว่ารูปแบบไหนคนก็จะชอบ ในทางตรงข้าม ถ้ามันห่วย ลงทุนทำไปหลักแสนหลักล้านก็มีแต่จะเสียกับเสียครับ