เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา Facebook ประกาศว่ามีผู้ใช้งานเป็นจำนวน 100 ล้านคนแล้วในททวีปแอฟริกา ซึ่งคิดเป็นจำนวน 50% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมดในทวีปแอฟริกาเลยทีเดียว สถิติที่น่าสนใจคือในจำนวนผู้ใช้งาน Facebook 100 ล้านคนนี้ มี 80% ที่ใช้งานผ่านโมบายล์ แสดงให้เห็นแนวโน้มการเติบโตของเทคโนโลยีในทวิปนี้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทีมวิศวกรของ Facebook กลับจากแอฟริกามาพร้อมกับแผนการพัฒนาแอปพลิเคชั่นบนแอนดรอยด์ โดยผลการสำรวจการใช้งานพบว่าปัญหาคือการดาวน์โหลดช้ามาก หน่วยความจำใน device ก็ต่ำ ทีมวิศวกรจึงพยายามลดไซส์ของแอปพลิเคชั่นลง 65% ซึ่งช่วยลดเวลาในการดาวน์โหลดได้มากกว่า 50%
ดูเหมือนว่าความพยายามของพวกเขาจะประสบความสำเร็จ เห็นได้จากผู้ใช้งานจำนวนมากที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์มือถือที่มีมากขึ้น คนในแอฟริกาไม่เพียงแต่ใช้สมาร์ตโฟนในการสื่อสารเท่านั้น แต่ยังใช้ทำธุรกรรมทางการเงิน จ้างงาน และบริการอื่นๆ ที่จำเป็นอีกด้วย พฤติกรรมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นนี้ นับว่าเป็นประโยชน์ต่อ Facebook และบริษัทตัวแทนโฆษณาเป็นอย่างยิ่ง
Rob Norman, Chief Digital Officer ผู้ดูแลด้านการซื้อสื่อจาก Global Group M โพสต์เอาไว้ในบล็อกว่าผู้ให้บริการอย่าง Facebook จะต้องมอบประโยชน์สูงสุดให้ผู้ใช้งาน แต่ต้องสูบ data ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
“ในแอฟริกา เรามองเห็นความเจริญเติบโตแบบสุดๆ อย่างไม่น่าเชื่อ ในขณะเดียวกัน ถ้าคุณมองไปยังต้นทุนที่ค่อนข้างจะสูงสำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในประเทศต่างๆ แล้ว การให้บริการด้านโมบายล์จะต้องส่งมอบประโยชน์สูงสุด แต่ต้องลดการใช้ data ให้ได้มากที่สุด อย่างที่ Facebook ทำ”
เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Mark Zuckerberg ได้ออกมาประกาศความสำเร็จในการผลักดันให้ประชากรชาวแซมเบียได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตจากโครงการ internet.org ซึ่งทำให้ชาวเมืองได้เข้าถึงแอปพลิเคชั่นพื้นฐานๆ อย่างสุขภาพและบริการจ้างงาน, วิกิพีเดีย, Facebook, Google Search, สิทธิสตรี และการพยากรณ์อากาศ
“ทุกอย่างที่ Facebook ทำก็เพื่อให้คนทั้งโลกมีโอกาสที่จะเชื่อมต่อกัน” Mark ประกาศเอาไว้ในแถลงการณ์ตอนเปิดตัว internet.org เมื่อปีที่แล้ว “ในประเทศกำลังพัฒนา มีอุปสรรคเยอะมากที่ขวางกั้นการเชื่อมต่อและการเป็นส่วนหนึ่งของระบบแห่งความรู้นี้ internet.org คือความร่วมมือที่จะช่วยให้เราเอาชนะความท้าทายนี้ได้ รวมทั้งการนำอินเทอร์เน็ตไปสู่คนที่ไม่สามารถจะจ่ายเพื่อมันได้ในตอนนี้ด้วย”
ดูจากตัวเลขการใช้งานอินเทอร์เน็ตและ Facebook ในแอฟริกา ก็เป็นไปได้ว่าภารกิจระดับโลกของ Mark Zuckerberg เข้าใกล้คำว่า “สำเร็จ” เข้าไปทุกทีแล้ว
ที่มา : Mashable