ต้องบอกว่าคงน่าเสียดายมากถ้าเราจะปล่อยให้ข่าวนี้ผ่านเลยไป เพราะเมื่อช่วงวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา สื่อออนไลน์พร้อมใจตีพิมพ์ผลการศึกษาที่สะท้อนว่า โฆษณา Facebook ผ่านอุปกรณ์ iOS นั้นทำกำไรมากกว่า Android เกิน 10 เท่าตัวหรือเกิน 1,000%
Nanigans หนึ่งในผู้ซื้อโฆษณารายใหญ่ของ Facebook ได้ศึกษาเกี่ยวกับการทำโฆษณาบน Facebook จำนวนกว่า 2 แสนล้านชิ้นพบว่า โฆษณาที่แสดงผลผ่านอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ iOS จะมีประสิทธิภาพมากกว่าโฆษณาที่แสดงอยู่บนอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ Android ถึง 1,790% ในระยะเวลารวม 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ (2013) พบว่าโฆษณาที่แสดงผลบน iOS มีค่า RPC (Revenue Per Click) ที่สูงกว่าบน Android ราว 6.1 เท่าตัว โดย iOS มีค่าเฉลี่ย 0.94 เหรียญสหรัฐต่อการคลิกหนึ่งครั้งในขณะที่บน Android มีค่าเฉลี่ยเพียง 0.15 เหรียญสหรัฐเท่านั้น
รวมไปถึงค่า ROI (Return On Investment) ก็มีผลไปในทิศทางเดียวกัน โดย iOS มี ROI ที่สูงกว่า Android ถึง 17.9 เท่าตัว ขณะที่บน iOS มีผลตอบแทนการลงทุนที่ 162% ส่วนบน Android กลับมีค่าติดลบที่ -10%
ตามผลการศึกษาของ Nanigans ไม่มีการระบุอย่างชัดเจน ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดความแตกต่างที่ระหว่างค่า RPC และ ROI ของอุปกรณ์ทั้ง 2 ชนิด แต่ก็แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มในปัจจุบันที่ผู้ใช้ iOS เป็นกลุ่มที่มีกำลังและมีแนวโน้มที่น่าลงทุนมากกว่าในกลุ่มผู้ใช้งาน Android จากผลการศึกษากลับพบความน่าประหลาดใจ ตรงที่การลงทุนทำโฆษณาบน Facebook ผ่านแอพพลิเคชั่นนบนมือถือระหว่างทั้ง 2 ระบบกลับไม่แตกต่างกันมากนัก โดยเฉพาะต้นทุนต่อการแสดงผลพันครั้งหรือ CPM (Cost Per Thousand Impressions) บน iOS มีค่า CPM ราว 4.99 เหรียญสหรัฐ ในขณะที่ Android ตามหลังเพียงเล็กน้อยที่ 4.87 เหรียญสหรัฐ
การสำรวจพบด้วยว่านักโฆษณาผู้ตัดสินใจเพิ่มมูลค่าการลงทุนบน iOS นั้นเติบโตจากไม่เกิน 20% ในเดือนมกราคม กลับเพิ่มขึ้นมากว่า 50% ในเดือนกันยายน นอกจากนี้ถึงแม้ว่าบน Android จะได้ค่อนข้างได้เปรียบ iOS อยู่ในเรื่องจำนวนผู้ใช้งานที่มีมากกว่าและมีต้นทุนต่อการคลิก หรือ CPC (Cost Per Click) ที่ต่ำกว่า iOS ก็ตาม (Android 0.18 เหรียญสหรัฐ / iOS 0.40 เหรียญสหรัฐ)
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากผู้บริหาร Nanigans พบว่าตลาดเกมและตลาดอีคอมเมิร์ชนั้นให้ผลการศึกษาที่ต่างกันชัดเจน แต่หากมองเฉพาะตลาดค้าปลีก การโฆษณาบน iOS จะมีผลดีกว่าแบบขาดลอย ซึ่งเป็นผลจากผู้ใช้ iOS ลงแรงคลิกและซื้อสินค้า-บริการมากกว่าผู้ใช้ Android
ที่มา: Mashable และ VentureBeat