จริงๆ แล้ว Facebook คงจะเตรียมฟีเจอร์นี้เอาไว้ตั้งนานแล้วล่ะ เพราะแอปพลิเคชั่น Facebook ในสมาร์ทโฟนจะเปิดแชร์โลเคชั่นอยู่ตลอดตามค่า Default ซึ่งมันก็น่าจะเป็นสิ่งที่ถูกคิดมาแล้วเป็นอย่างดีเพื่อรองรับแนวทางการโฆษณาแบบ Location – Based ในวันนี้ ตามการรายงานของ Techcrunch
ฟีเจอร์นี้จะช่วยพาลูกค้าที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงเข้าถึงธุรกิจได้ง่ายขึ้น เช่น ธุรกิจขายอุปกรณ์ก่อสร้างก็สามารถเลือกยิงโฆษณาแบบ Location-Based ได้เพื่อเข้าถึงลูกค้าที่ต้องการซื้อวัสดุสำหรับซ่อมหลังคาจากร้านค้าที่อยู่ไม่ไกลจากบริเวณบ้านมากนัก เพื่อความสะดวกในการขนย้าย เป็นต้น
ทางด้านนักโฆษณาก็จะกำหนดขอบเขตการโฆษณาเป็นระยะทางได้ตามต้องการ และโฆษณาเหล่านั้นก็จะไปปรากฏในสมาร์ทโฟนและเว็บเบราเซอร์ของผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้น
ฟีเจอร์ดังกล่าวเปิดให้ใช้งานแล้วในสหรัฐฯ และพร้อมที่จะให้บริการทั่วโลกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ไทยเองก็คงรอไม่นานเช่นกัน
Facebook มีข้อมูลมากพอสำหรับการขายโฆษณาในลักษณะนี้ ด้วยจำนวนผู้ใช้งาน Facebook มากกว่า 1 พันล้านแอคเคาท์ และหลายๆ คนก็เปิดแชร์โลเคชั่นเอาไว้ตลอด รวมไปถึงผู้ใช้งานบน Desktop ที่มีการระบุที่อยู่ปัจจุบันเอาไว้ หรือสามารถติดตามได้จาก IP address
ทันทีที่ธุรกิจเลือกซื้อโฆษณาบน Facebook แบบ Location – Based จะต้องระบุที่อยู่ของตัวเอง แล้วเพิ่มรูปภาพหรือข้อความลงไป หลังจากนั้นก็กำหนดเป้าหมายที่ตัวเองต้องการ เช่น ขอบเขตการโฆษณาแบบคิดเป็นระยะทาง ช่วงอายุ เป็นต้น แล้ว Facebook ก็จะจัดการส่งโฆษณาเหล่านั้นไปยังบริเวณที่ธุรกิจกำหนด และในมุมของลูกค้า ถ้าสนใจธุรกิจหรือสินค้านั้นแล้วต้องการเดินไปหาร้านเหล่านั้น ก็เลือก Get Direction เพื่อเปิดเแผนที่หาทางไปร้านได้ทันที win – win ทั้ง 2 ฝ่าย ภายใต้เงื่อนไขว่าลูกค้าต้องรูด news feed อยู่บ่อยๆ นะ (ซึ่งก็คงจะบ่อยอยู่แล้ว)
ด้วยวิธีการโฆษณาในลักษณะนี้ น่าจะช่วยเพิ่มยอดขายได้สำหรับคนที่มีหน้าร้านและต้องการลูกค้าจากบริเวณใกล้เคียงไม่เกิน 1 ไมล์ หรือประมาณ 1.6 กิโลเมตร ซึ่งธุรกิจเองก็น่าจะยินดีจ่าย เพราะนอกจากจะได้ยอดขายแล้ว ก็ยังวัดผลการโฆษณาได้ง่ายๆ อีกด้วย ซึ่งใน Step ต่อไปของ Facebook ก็คงจะเป็นการไปดึงเอาแอปพลิเคชั่นอื่นๆ มาเป็นเครือข่ายโฆษณาด้วยในลักษณะ Third party เพื่อเพิ่มช่องทางในการยิงโฆษณามากยิ่งขึ้น
ถ้ายังพอจำกันได้ สัปดาห์ก่อนเราเพิ่งจะพูดถึงข่าว Facebook กับเครือข่ายการโฆษณาแบบ Third Party ที่จะติดตามเราไปได้ทุกเบราเซอร์ ไม่จำกัดแค่ใน Facebook รวมกับการเปิดตัวช่องทางการขายโฆษณาแบบ Location – Based ในวันนี้ สังเกตว่า Facebook จับกลุ่มเป้าหมายได้อยู่หมัดทั้งที่เป็นร้านค้าออนไลน์ และร้านแบบมีหน้าร้าน ซึ่งก็คงจะตามมาด้วยรายได้อีกหลายเท่าตัวสำหรับ Facebook
