ในวันพุธ (9 กันยายน 2563) เฟซบุ๊กได้ประกาศเตรียมจำกัดจำนวนโฆษณาต่อเพจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยจะมีผลตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2021 หรืออีกราว 5 เดือนข้างหน้า
โดยเฟซบุ๊กให้เหตุผลว่า “หากนักการตลาดสร้างโฆษณาจำนวนมากในคราวเดียว โฆษณาแต่ละรายการจะแสดงผลน้อยลง ซึ่งหมายความว่าระบบจะเรียนรู้น้อยลงและใช้งบประมาณมากขึ้น ขณะที่ระบบไม่ได้แสดงประสิทธิภาพที่เหมาะสม”
นอกจากนี้เฟซบุ๊กยังเผยอีกว่าโฆษณา 4 ใน 10 ระบบไม่สามารถผ่านขั้นตอนการเรียนรู้ (ระบบที่ทำให้โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกลุ่ม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการโฆษณา) เนื่องจากนักการตลาดสร้างโฆษณาจำนวนมากในคราวเดียวกัน
ดังนั้น กฎใหม่ของเฟซบุ๊กจึงจำกัดจำนวนโฆษณาตามงบโฆษณา แบรนด์ที่มีผู้ติดตามจำนวนมากจึงมีโอกาสสร้างโฆษณาได้มากขึ้นตามไปด้วย
- เพจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง (ใช้งบโฆษณาน้อยกว่า $100K ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา) จำกัดที่จำนวน 250 โฆษณา
- เพจขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ (ใช้งบโฆษณามากกว่า $100K ถึง $1M ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ) จำกัดที่จำนวน 1,000 โฆษณา
- เพจขนาดใหญ่ (ใช้งบโฆษณามากกว่า $1M ถึง $10M ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ) จำกัดที่จำนวน 5,000 โฆษณา
- เพจขนาดใหญ่มาก (ใช้งบโฆษณามากกว่า $10M ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ) จำกัดที่จำนวน 20,000 โฆษณา
ทั้งนี้ จำกัดจำนวนโฆษณาหมายถึงจำนวน “ads” ไม่ใช่จำนวนแคมเปญ หากเพจสร้างโฆษณาเกินจำนวนที่กำหนดจะไม่สามารถดำเนินการได้ โดยเพจสามารถดูจำนวนโฆษณาได้ใน Ad Limits per Page
อย่างไรก็ตามหลายคนคงอยากแตกเพจออกมาเพื่อสร้างโฆษณาได้มากขึ้น แต่เฟซบุ๊กก็ได้ยกเหตุผลมา 3 ข้อ
1. ทั้งสองเพจจะแข่งขันกันเองในการแสดงโฆษณาให้กับกลุ่มเป้าหมาย
2. อัลกอริทึมจะสร้างชุดการเรียนรู้ที่แยกกันทำให้ประสิทธิภาพไม่เท่ากัน
3. แบรนด์ต้องดูแลมากกว่า 1 เพจซึ่งอาจส่งผลต่อเอกลักษณ์ของแบรนด์
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook