Facebook เปิดบริการ Marketplace ในสหภาพยุโรป 17 ประเทศอย่างเป็นทางการช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา หนึ่งในจุดหลักของบริการนี้คือการเน้นให้การสั่งซื้อสินค้าทำได้เฉพาะในประเทศเดียวกัน สื่อว่า Facebook ต้องการเป็นศูนย์กลางข้อมูลการซื้อสินค้าท้องถิ่นเหมือนที่เว็บไซต์ Craigslist เป็นที่นิยมในสหรัฐฯ
ข้อควรรู้ข้อแรกของ Facebook Marketplace คือการไม่เน้นเก็บค่าธรรมเนียมการขายเหมือน Amazon หรือ eBay แต่เน้นให้ผู้ค้าปลีกในประเทศทดลองโพสต์สินค้าเพื่อขายออนไลน์แบบไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องคำนวณราคาเพิ่ม ไม่ต้องสร้างระบบใหม่ ขอเพียงมีสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ก็สามารถโพสต์ขายในเวลาไม่เกิน 15 นาที
ข้อควรรู้ข้อที่ 2 คือ Facebook Marketplace ไม่ได้เปิดที่ประเทศใหญ่อย่างฝรั่งเศส โดยเปิดเพิ่มเฉพาะที่ออสเตรีย, เบลเยียม, สาธารณรัฐเชค, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี,ฮังการี, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ลักเซมเบิร์ก, นอร์เวย์, โปรตุเกส, สเปน, สวีเดน, สวิสเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์
ประเทศเหล่านี้สะท้อนว่า Facebook Marketplace อาจเปิดอีกเฟสในอนาคต เนื่องจากการขยายครั้งนี้เป็นผลมาจาก Facebook Marketplace ที่เปิดให้บริการในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และออสเตรเลียขยายตัวสูงมาก เบ็ดเสร็จแล้วตลาดใน 3 ประเทศนี้มีผู้ใช้งานราว 550 ล้านคนต่อปี ยังไม่นับนิวซีแลนด์ที่มีตลาดรออยู่
ข้อควรรู้ที่ 3 คือข้อจำกัดข้อหนึ่งของ Facebook Marketplace คือการสั่งซื้อได้เฉพาะในประเทศเดียวกันเท่านั้น แถม Facebook ยังไม่ได้มีบริการจัดการเรื่องการจ่ายเงินและเรื่องการขนส่งให้ Marketplace โดยทุกธุรกรรมเน้นที่การสนทนา ข้อความทั้งหมดจะยังมีการเก็บไว้ในบัญชีของผู้ใช้ทุกคนเพื่อเข้าไปอ่านได้ และ Marketplace ยังเป็นอีกรูปแบบของธุรกิจโฆษณาของ Facebook ได้ด้วย
ข้อที่ 4 คือทางเข้าร้าน Marketplace จะปรากฏเมื่อผู้ใช้เปิดแอปพลิเคชัน Facebook โดยจะพบกับแท็บ Marketplace เพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งแท็บ ผู้ค้าสามารถโพสต์รูป รายละเอียด และราคาขายได้ทันที ส่วนทางด้านผู้ซื้อก็จะสามารถค้นหาสินค้าจากพื้นที่ใกล้เคียง และติดต่อไปยังผู้ขายได้ผ่านแอปโดยตรง
ที่มา: Facebook