นี่คือผลการสำรวจที่ตรงกับแนวทางของ Facebook เรื่องการเน้นให้ความสำคัญกับธุรกิจโฆษณาบนอุปกรณ์โมบายล์ (mobile advertising) อย่างจัง เพราะวันนี้การสำรวจของบริษัท Kenshoo พบว่ามากกว่า 20% ของยอดใช้จ่ายด้านการซื้อโฆษณาบน Facebook ทั้งหมดนั้นเทไปที่อุปกรณ์พกพา ถือเป็นตัวเลขเติบโตก้าวกระโดดจากครั้งล่าสุดที่ Facebook เคยประกาศไว้เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
Kenshoo บริษัทวิเคราะห์โซเชียลมีเดียเผยผลวิเคราะห์ที่แสดงให้เห็นว่า นักการตลาดหรือเจ้าของสินค้าหันไปให้ความสนใจกับการโฆษณาบนอุปกรณ์พกพากันมาขึ้น โดยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา (2012) มีรายงานว่า 14% ของรายได้จากการขายโฆษณาของ Facebook มาจากโฆษณาบนอุปกรณ์พกพา แต่ผลวิเคราะห์จาก Kenshoo เผยให้เห็นว่าในปัจจุบัน ตัวเลขรายได้นั้นเพิ่มขึ้นเป็น 20.3% แล้ว
ที่ผ่านมา Facebook กระตุ้นให้นักการตลาดหันไปซื้อโฆษณาบนอุปกรณ์พกพา เพราะมองว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่ เปลี่ยนพฤติกรรมไปใช้งานบนอุปกรณ์พกพามากกว่า หลังจากที่ลังเลอยู่พักใหญ่ นักการตลาดก็เริ่มหันมาให้ความสนใจการลงโฆษณาบนอุปกรณ์พกพา ซึ่งทำให้ราคาการโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือสูงกว่าการลงโฆษณาบนหน้าเว็บไซต์ถึง 70% ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผล เพราะปกติโฆษณาบนหน้าเว็บไซต์จะมีอยู่ประมาณ 7 ตัวหรือมากกว่านั้น แต่การวางโฆษณาบนหน้าแอพ โฆษณาตัวเดียวก็แทบจะกินพื้นที่ไปเกือบครึ่งหนึ่งแล้ว จุดนี้ถือว่าคุ้มค่า เพราะผลวิเคราะห์จากหลายแห่งยืนยันว่าโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือช่วยเพิ่ม click-through rate ได้จริง
ผลวิเคราะห์ยังเผยให้เห็นอีกว่า การลงโฆษณา Mobile Ads กว่า 71% พุ่งเป้าไปที่โทรศัพท์แอนดรอยด์ ซึ่งก็สอดคล้องกับผลวิจัยที่เผยว่าผู้ใช้กว่า 192 ล้านคน ใช้ Facebook บนโทรศัพท์แอนดรอยด์ และ 147 ล้านคนใช้ Facebook บนไอโฟน
ความจริงนี้สามารถแสดงให้เห็นว่า Facebook ให้ความสำคัญกับแอนดรอยด์มากกว่า iOS เล็กน้อย เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีฐานการใช้งานใหญ่กว่า
การบ้านสำหรับ Facebook ในตอนนี้ คงจะเป็นการหาวิธีที่จะทำอย่างไร ให้ ads ที่ขึ้นมาบน news feed ของผู้ใช้ ไม่รบกวนการใช้งานมากนัก เพราะสำหรับผู้ใช้ปกติ คงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ถ้าเปิดแอพขึ้นมาแล้วต้องเจอกับกองทัพโฆษณา แทนที่จะเป็นสถานะสุดคูลของเพื่อนๆ
ที่มา: Techcrunch