ต่อให้ประเด็นนี้จะถูกคลี่คลายยังไงแต่เชื่อว่ายังมีหลายคนสงสัยอยู่ เพราะบางครั้งเราแค่คิดอะไรเพลินไปเรื่อยๆ แต่พอมาเล่นฟีต Ads เรื่องนั้นกลับขึ้นมารัวๆ ซึ่งมันเกิดขึ้นบ่อยจนยังการตั้งคำถามอยู่ทำให้ปีที่แล้วมาร์คถึงได้ถูกไต่สวน แต่ก็ยังไม่พ้นข้อครหาเท่าไหร่นัก วันนี้เราจึงจะมาอธิบายว่าทำไม Facebook ถึงรู้ใจเราจนเหมือนมีเครื่องดักฟัง ฉบับเข้าใจง่ายค่ะ
Facebook มีระบบวิเคราะห์ที่ลึกล้ำที่สุด
กว่าแพลตฟอร์มนึงจะเติบโตขึ้นมาจนเป็นโปรแกรมที่คนทั่วโลกเลือกใช้ในการสื่อสาร เครื่องมือวิเคราะห์ความต้องการของ Facebook จึงมีระบบที่ซับซ้อนและลึกล้ำเกินกว่าที่เราจะเข้าใจเรื่องหลังบ้าน
แต่อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า ข้อมูลส่วนตัวที่เราเก็บไว้บน Facebook ก็มากพอที่จะทำให้วิเคราะห์พฤติกรรมของเราที่จะเกิดขึ้น ในอีก 5 นาทีข้างหน้าด้วยซ้ำละยิ่ง Facebook ผูกติดกับแทบทุกโปรแกรมที่ลิงค์กันได้
ก็ยิ่งเข้าใจพฤติกรรมเราตอนไม่ได้เข้า Facebook ด้วยแถมเรายังกดยินยอมให้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวอีก เรียกว่า Facebook ตามติดเราทุกฝีก้าวโดยที่เราก็ยินยอมซะด้วย
ปรากฏการณ์ทางจิตวิทยา
การที่เราเปิดเว็บไซต์หน้าใดนานๆ หรือกดหยุดโพสต์ใดโพสต์นึงแสดงว่าเรากำลังสนใจสิ่งนั้นอยู่ Facebook ก็จะป้อนทั้งโพสต์และ Ads เต็มไปหมดขึ้นมาให้เรา
ถึงแม้มาร์คจะบอกว่าเกิดจากปรากฏการณ์ทางจิตวิทยา Baader-Meinhof phenomenon หมายถึงเราเลือกจดจำสิ่งที่เราสนใจจึงจำ Ads ที่ Facebook ป้อนมาให้ทั้งที่จริงเรามีพฤติกรรมที่จะเสพสิ่งนี้มาก่อนหน้านั้นไม่ใช่แค่คิดเมื่อกี้อย่างเดียว
ต้นทุนการดักฟังสูงเกินไป
บอกก่อนว่าการดักฟังต่างๆ หมายถึงการนำข้อมูลสิ่งนั้นเข้ามาในระบบ และหาก Facebook มีการดักฟังเพียงครึ่งวัน ทั่วทั้งอเมริกา จะทำให้ต้นทุนของ Facebook มีปริมาณที่สูงเกินไป
ไม่คุ้มค่าแก่การลงทุนนี่เป็นเพียงวันเดียวเท่านั้น หากเป็นปีๆ ต่อให้คนเล่น Facebook ทั้งวันก็คงไม่ช่วยให้กำไรเพิ่มขึ้นเพราะต้นทุนสูงตามจำนวนคนเล่นมากเกินไป
และอีกอย่างคือ Facebook อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ถ้ามีกาตรวจสอบว่าดักฟังจริง จะเป็นการละเมิดสิทธิอย่างใหญ่หลวง
แต่หากใครยังไม่สบายใจแนะนำปิดไมโครโฟนเพื่อความสบายใจของเรา
Android : Settings > Apps > Facebook > Permissions แล้วกดปิดที่ Micrphone
iPhone : Settings > Privacy > Microphone > Facebook (Off)
เพราะเทคโนโลยีซับซ้อนและลึกลับ จนกลายเป็นดาบสองคม ถึงวันนี้ Facebook จะดักฟังเราหรือไม่ เชื่อว่าหลายคนต่อให้รู้เหตุผลก็ยังไม่สบายใจ นอกใจปิดไมโครโฟนตามวิธีข้างบนแล้ว ยังมีอีกวิธีคือการระมัดระวังในการกด Accept โปรแกรมต่างๆ ให้ละอียดมากขึ้นเพราะแอพเหล่านั้นสามารถดักฟัง