หลังโซเชียลมีเดียกลายเป็นอีกช่องทางที่ผู้คนหันมาใช้ติดตามข่าวสาร เพราะความไวและเข้าถึงได้ง่าย แต่ทว่าจากผลการศึกษาล่าสุดผลการศึกษาชี้ว่าพวกเขายังได้รับข่าวน้อยเกินไป ทำให้ Facebook ตัดสินใจเลือกเนื้อหาประเภทข่าวมาใส่ใน News Feed ของผู้ใช้มากขึ้น
จากผลการศึกษา โดย Pew Research Center ที่เผยออกมาเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ชี้ว่าผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกากว่า 30% ที่ใช้ Facebook นั้นได้รับข่าวน้อยกว่าที่ควรจะเป็น แต่หลังจากนี้จะไม่เป็นอย่างนั้นอีกต่อไปแล้ว เมื่อทาง Facebook ได้ตัดสินใจเลือกลิงก์ข่าว มาโชว์บน News Feed มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ใช้ Facebook บนสมาร์ทโฟน
โดยทาง Facebook ได้ออกมาแถลงการณ์ว่า พวกเขาได้ทำการปรับแต่งหน้า News Feed เพื่อให้ผู้ใช้สามารถรับข่าวสารอย่างที่พวกเขาต้องการ ในเวลาที่พวกเขาต้องการ โดยทาง Facebook ยังได้เผยข้อมูลประกอบผลศึกษาของ Pew Research Center ชิ้นนี้ว่า เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ต่างๆนั้นหันมาใช้ Facebook เป็นช่องทางในการดึงผู้คนไปยังเว็บไซต์ของพวกเขามากขึ้น ในขณะที่ทาง Pew Research Center นั้นได้ชี้ว่าการเชื่อมต่อข้อมูลข้ามแพลตฟอร์มนั้นเป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบันนี้
Facebook ยังได้ให้ข้อมูลอีกว่า ทางพวกเขาจะหันมาใส่ใจคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูง และผู้ใช้ Facebook บนสมาร์ทโฟนนั้นจะได้เห็นลิงก์ข่าวบน News Feed ของพวกเขามากกว่าผู้ใช้บนคอมพิวเตอร์ธรรมดาเล็กน้อย ส่วนเนื้อหาประเภท Meme นั้นจะมีบทบาทบนหน้า News Feed ที่น้อยลง นอกจากนี้พวกคอนเทนต์ที่ทาง Facebook เห็นว่ามีคุณภาพต่ำ พวกเขาจะถือว่าเป็นเนื้อหาที่ผู้ใช้ให้ความสนใจต่ำไปด้วย
โดยฟีดข่าวต่างๆบนหน้า News Feed ของผู้ใช้นั้นจะแตกต่างกันไปตามความสนใจของผู้ใข้ เพราะ Facebook สังเกตเห็นว่าผู้ใช้มักจะให้ความสนใจเนื้อหาที่เกี่ยวกับความชอบของพวกเขา อย่างทีมฟุตบอลทีมโปรด หรือข่าวอีเวนท์ หรือสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันมากกว่า ซึ่งหลังจากนี้ไปหากผู้ใช้คลิกไปที่เนื้อหา News Feed เพื่อจะอ่านข่าว พวกเขาจะพบลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้องหรือใกล้เคียงกันอีกถึง 3 ข่าวด้านล่างลิงก์ข่าวนั้นๆ
ซึ่งคาดว่าจะทำให้การรับข่าวสารจาก Facebook นั้นง่ายขึ้นมากสำหรับผู้ใช้บนโทรศัพท์มือถือ ที่่นอกจากจะได้เห็นหัวข้อข่าวมากขึ้นแล้ว พวกเขายังสามารถอ่านข่าวที่ใกล้เคียงได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทาง Facebook ยังไม่ได้ชี้แจงว่าจะปรับหน้า News Feed อย่างเป็นทางการเมื่อใด และจะเป็นการปรับแบบทั่วโลกเลยหรือไม่ ต้องติดตามต่อไปค่ะ
ที่มา SLASH GEAR, CNET
ภาพจาก Marketingland