สำนักข่าว BBC รายงานว่าบริษัทเฟซบู๊ก (Facebook) ได้ตกลงยินยอมที่จะจ่ายเงินจำนวน 106 ล้านยูโรหรือราว 3.92 พันล้านบาท ซึ่งเป็นภาษีย้อนหลังและค่าปรับให้กับรัฐบาลฝรั่งเศส ในคดีเลี่ยงภาษีระหว่างปี 2009-2018
“เราจะจ่ายภาษีให้กับทุกประเทศที่เราดำเนินการ” โฆษกของเฟซบุ๊กกล่าว “เราปฎิบัติตามข้อผูกพันด้านภาษีของเราอย่างจริงจังกับหน่วยงานด้านภาษีเพื่อให้แก้ไขข้อพิพาทเหมือนกับที่เราได้ทำงานร่วมกับฝรั่งเศส”
เครือข่ายโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ไม่ได้เผยรายละเอียดของข้อพิพาทด้านภาษี แต่ฝรั่งเศสได้ผลักดันให้บริษัทเทคโนโลยีจ่ายภาษีให้กับประเทศมากขึ้น
โดยสำนักงานสรรพากรของฝรั่งเศสกล่าวหาเฟซบุ๊กว่ามีการโยกย้ายรายรับโฆษณาที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสไปยังสาขาอื่นในยุโรป จนกระทั่งในปี 2018 เฟซบุ๊กยอมเปลี่ยนวิธีบันทึกรายได้ที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศส ให้เป็นรายได้ที่จะต้องเสียภาษีในฝรั่งเศสเช่นกัน
เช่นเดียวกันกับบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น Google, Apple และ Amazon ที่ได้บรรลุข้อตกลงที่คล้ายคลึงกันกับหน่วยงานด้านภาษีของฝรั่งเศส
อย่างไรก็ตาม จำนวนเงินที่จ่ายในครั้งนี้นับว่าเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับคดีความลักษณะเดียวกันในสหรัฐฯ ที่เฟซบุ๊กโดนฟ้องเป็นเงิน 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (283,000 ล้านบาท)
การหลบเลี่ยงภาษีของบริษัทเทคโนโลยี
สาเหตุที่มีคดีความเกิดขึ้นนั้น มาจากการที่บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีหลายแห่ง นิยมไปตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภาคพื้นยุโรปในประเทศไอร์แลนด์ ซึ่งเก็บภาษีบริษัทในอัตราที่ต่ำ
ยิ่งเป็นบริการด้านดิจิทัลที่สามารถเข้าถึงได้จากทุกที่บนโลกที่มีอินเตอร์เน็ต ทำให้หลายบริษัทเลือกที่จะบันทึกรายได้ที่เกิดขึ้นในไอร์แลนด์ ส่งผลให้รัฐบาลหลายประเทศมองว่าเป็นการหลบเลี่ยงภาษี
ในปี 2019 เฟซบุ๊กมีรายได้ 70,697 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ล่าสุดในไตรมาสที่ 1 และ 2 ของปีนี้ พวกเขามีรายได้เพิ่มขึ้น 18% และ 11% ตามลำดับ
อ้างอิง BBC, Workpointtoday