แม้จะเป็นสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก แต่เฟซบุ๊คกลับมีโจทย์อยู่อย่างน้อยหนึ่งข้อที่พวกเขาแก้ไม่ตกเสียที นั่นก็คือการสร้างรายได้จากจำนวนผู้ใช้ที่มีอยู่อย่างมากมาย ส่วนหนึ่งทุกคนคงพอทราบ นั่นก็เพราะบริการทั้งหมดของเฟซบุ๊คเป็นบริการ “ฟรี” ไม่มีการเก็บเงินใดๆ จากสมาชิกหลายล้านราย นั่นทำให้เกิดการโยงไปยังโจทย์ในวันนี้ว่า “ถ้าเฟซบุ๊คเก็บเงินค่าบริการขึ้นมา…คุณจะยอมจ่ายไหม แล้วบริการไหนที่จะยอมเสียเงินให้กับพี่มาร์คกันบ้าง?”
ย้อนไปเมื่อสักช่วงปี 2009 ทาง?Sheryl Sandberg ซึ่งเป็น ประธานฝ่ายจัดการของ Facebook เคยให้สัมภาษณ์โดยประกาศย้ำชัดว่าทาง Facebook ไม่มีนโยบายที่จะเก็บเงินค่าบริการจากการใช้สังคมออนไลน์เบอร์หนึ่ง ซึ่งคำพูดนี้น่าจะทำให้แฟนๆ ผู้ใช้งานเฟซบุ๊คสบายใจได้ “ถ้า” อีกหนึ่งคำพูดของเธอไม่ใช่การบอกสื่อมวลชนว่า “Facebook จะไม่กลายเป็นบริษัทมหาชน” หรือการเข้าสู่ตลาดหุ้นนั่นเอง
แน่นอนว่ามาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก คงไม่ได้คิดแน่ว่าแค่ไม่ถึง 10 ปี พวกเขาจะเติบโตขึ้น และมีผู้ใช้งานมากมายมหาศาลขนาดนี้ ไม่อย่างนั้นแผนการให้บริการโดยเก็บค่าบริการในบางส่วนของเฟซบุ๊ค อาจจะมีให้เราเห็นในทุกวันนี้
ทีนี้ลองมาดูสามบริการยอดนิยมนอกเหนือจาก Timeline หรือการใช้งานบริการโปรไฟล์ส่วนตัว อย่าง Facebook Photo หรือคลังรูปภาพที่อยู่ในโปรไฟล์ของผู้ใช้งานแต่ละคน, Facebook Chat และ Facebook Page ที่มาลองคิดกันเล่นๆ ว่า ถ้าต้องเก็บค่าบริการจริงๆ ตัวไหนบ้างที่ควรเก็บ หรือคุณจะยอมจ่าย…
Facebook Photo:
ปรับปรุงมาหลายต่อหลายเวอร์ชัน ซึ่งทีมงานของเราเองก็เคยนำเสนอเป็นบทความเมื่อต้นปีที่แล้ว เชื่อเหลือเกินว่าแทบทุกคนที่ใช้เฟซบุ๊คกันอยู่บ่อยๆ ก็ต้องใช้ฟังก์ชันนี้มากตามไปด้วยอย่างแน่นอน ผู้คนล้วนใช้เจ้า Facebook Photo เป็นที่เก็บความทรงจำในรูปแบบของภาพถ่าย แต่อะไรจะพิเศษไปกว่าการที่ได้ใช้มัน แบ่งปันความสุข ความเศร้า หรือความรู้สึกแบบอื่น ให้เพื่อนๆ หรือใครก็ตามได้เข้าถึงพร้อมกันไปด้วยเช่นกัน
ใน 6 ปีที่ผ่านมามีผู้คนใช้เฟซบุ๊คเป็นที่เก็บภาพถ่าย แทนบริการอัพโหลดภาพอย่าง Flickr หรือ Multiply ด้วยซ้ำไป เพราะด้วยคุณสมบัติที่ดี และการผนวกเข้ากับบริการสังคมออนไลน์ ทำให้นี่คืออาวุธหลักของเฟซบุ๊คที่มีเหนือคู่แข่ง
ควรจ่ายหรือไม่ควรจ่าย: ส่วนตัวผมยังคิดว่าบริการนี้ไม่ควรจะมาเก็บค่าบริการ เนื่องจากเป็นการใช้งานส่วนตัว และถือเป็นจุดเด่นหลักของพวกเขา แต่ถ้าหากจะเก็บจริง ผมก็ยอมจ่ายนะ ^^
Facebook Chat:
ถ้าย้อนไปก่อนการมีเฟซบุ๊ค เราจะพบหรือรู้สึกว่าบริการตัวหนึ่งที่ปัจจุบัน หายเงียบไปเลย นั่นก็คือ MSN Messenger ที่แม้นว่าจะกลายร่างเป็น Windows Live Messenger แล้วก็ตาม แต่ตอนนี้ผมแทบจะไม่เห็นคนใช้งานมันมากเท่าไรนัก นั่นอาจจะเป็นเพราะสังคมออนไลน์ หรือรูปแบบการติดต่อสื่อสารรูปแบบอื่น
ในขณะที่ผู้ใช้บริการเฟซบุ๊ค ฟังก์ชันการแชทในหน้าเว็บไซต์ Facebook.com ที่สะดวกที่สุดตัวหนึ่ง ก็คือ Facebook Chat ยิ่งโดยเฉพาะถ้าจะคุยกับเพื่อนๆ ที่อยู่รายชือบนเฟซบุ๊คของตน ก็ยิ่งง่าย แม้จะไม่ออนไลน์อยู่ ก็สามารถใช้ฝากข้อความใน Message แทนได้เช่นเดียวกัน
ควรจ่ายหรือไม่ควรจ่าย: แม้จะใช้อยู่บ้าง แต่ผมกลับไม่ค่อยเห็นความสำคัญของฟังก์ชันนี้สักเท่าไรนัก โดยส่วนตัว ผมมักใช้ Skype ในการแชทหรือกระมั่งสนทนาด้วยระบบ VoIP ไปเลย ซึ่งผมคงเคยเสนอเครื่องมือที่จะทำให้ ?Facebook Chat สามารถใช้บริการ VoIP ได้ แต่เอาเข้าจริงกลับไม่ได้รับความนิยมมากนัก ?เพราะฉะนั้นถ้าจะมาเก็บเงินกับฟังก์ชันนี้ ผมคงไม่จ่ายแน่นอนครับ
Facebook Pages:
เป็นฟังก์ชันปัจจุบันถูกนำไปพ่วงกับธุรกิจมากที่สุด เพราะในปัจจุบัน นอกจากจะเป็นการเชื่อมคนในโลกออฟไลน์ให้มาอยู่บนโลกออนไลน์ และเน้นการใช้งานส่วนตัวแล้ว กลับมีผู้นำเฟซบุ๊คไปใช้เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางด้านการตลาด และด้านธุรกิจกันมากขึ้น และก็ยังได้รับการตอบรับดีเสียด้วย
นั่นทำให้ปัจจุบัน Facebook Pages จะมีการใช้งานกันเยอะขึ้น จนเรียกว่าคำว่า “Likes” ในวันนี้ แทบจะกลายเป็นคำหนึ่งที่มีความหมายสัมพันธ์ไปกับเฟซบุ๊คไปเสียแล้ว แถมปัจจุบันยังมีฟังก์ชันที่เสริมให้หน้าเพจของธุรกิจมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นด้วย
ควรจ่ายหรือไม่ควรจ่าย: นี่คือฟังก์ชันที่สมควรจะ “จ่าย” เงินมากที่สุด ในบรรดาทุกๆ ฟังก์ชัน (ยกเว้น Facebook Ads) เพราะแน่นอนว่าเฟซบุ๊คให้คุณมีเครื่องมือการตลาดที่สุดยอดตัวหนึ่ง ถ้ามีรายได้ ก็ควรจะจ่ายให้พวกเขาบ้างดีไหมครับ ^^
…แล้วคุณล่ะครับ คิดเหมือนผมบ้างหรือไม่ หรือมีฟังก์ชันใดที่คิดว่า ควรหรือน่าจะมีการเก็บค่าบริการได้บ้าง บอกเล่าให้เราทราบบ้างนะครับ ว่าคุณ…คิดอย่างไร