หลังจากประกาศผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ผู้บริหาร Facebook พยายามขีดเส้นย้ำว่าวิดีโอโฆษณาบนอุปกรณ์พกพาแบบสั้น 6 วินาทีนั้นให้ประสิทธิภาพมากกว่าแบบความยาวมาตรฐาน 15 หรือ 30 วินาทีมากนัก เรื่องนี้มีนัยสำคัญที่นักการตลาดควรทราบอย่างน้อย 4 ประเด็น
ประเด็นแรกคือ Sheryl Sandberg เอ่ยปากย้ำว่าการผลิต “short-form snackable content” หรือวิดีโอสั้นที่ชมรู้เรื่องในไม่กี่วินาทีนั้นถือเป็นโอกาสที่ทุกธุรกิจไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องการประชาสัมพันธ์ตัวเองบนอุปกรณ์พกพา เนื่องจากการสำรวจพบว่าวิดีโอโฆษณาที่สั้นกว่า ช่วยให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้ดีกว่าวิดีโอโฆษณายาว
ประเด็นที่ 2 คือวิดีโอสั้น 6 วินาทีให้ผลทดสอบยอดเยี่ยมทั้งบนบริการหลักของ Facebook เอง และบนบริการแชร์ภาพทั่วไป ประเด็นนี้สะท้อนว่าวิดีโอสั้นนั้นทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกถูกขัดจังหวะ และไม่รบกวนการชมภาพบนเครือข่ายสังคมที่กำลังเกิดขึ้นต่อเนื่อง
ประเด็นที่ 3 คือนอกจากวิดีโอสั้น Sandberg บอกว่าอีกโอกาสใหญ่ที่รอนักโฆษณาคือโฆษณาในรูป full-screen ad หรือโฆษณาที่ขยายแสดงเต็มหน้าจอบน Instagram Stories ซึ่งเป็นบริการ video messaging ที่มีคุณสมบัติเพื่อแข่งขันกับ Snapchat โดยเฉพาะ จุดนี้ผู้บริหาร Facebook เชื่อว่านักการตลาดที่ต้องการสร้างการรับรู้ในแบรนด์และเพิ่มยอดขาย จะสามารถใช้โฆษณารูปแบบใหม่เพื่อตอบโจทย์ของธุรกิจได้เช่นกัน
ประเด็นที่ 4 คือแนวโน้มการเติบโตของโฆษณาวิดีโอสั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เนื่องจาก Facebook จะลงทุนอีกระลอกเพื่ออัดฉีดให้ศูนย์ข้อมูลของบริษัทสามารถจัดการทราฟิกเรียกชมวิดีโอที่จะเพิ่มขึ้นอีกมหาศาล เพื่อให้บริษัทสามารถให้บริการรายการทีวีของตัวเองหรือ premium original video programming ซึ่งจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในเดือนหน้า จุดนี้ Sandberg ระบุกับสำนักข่าว CNBC ว่ายังอยู่ในช่วงแรกของการลงทุน และจะมีการลงทุนอื่นตามมาอีกมาก ประเด็นนี้สะท้อนว่านอกจากโฆษณาวิดีโอสั้นแล้ว อาจมีโฆษณาวิดีโอรูปแบบอื่นเกิดขึ้นใหม่ในอนาคตอีก
สำหรับวิดีโอนั้นถูกมองว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รายได้จากการขายโฆษณาของ Facebook มีการเติบโตสูงมาก โดยผลประกอบการไตรมาส 2 ชี้ว่า Facebook มียอดขายโฆษณามากกว่า 9.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นมากกว่า 47% โดยตัวเลขยอดขายโฆษณา mobile ad เพิ่มขึ้นกว่า 53% แตะระดับ 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิเป็นสัดส่วนกว่า 87% ของรายได้รวม Facebook
ที่มา: MarketingDive