เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สร้างแรงกระเพื่อมได้ดีรับต้นปีจริง ๆ สำหรับ Facebook ที่ออกมาแถลงถึงการเปลี่ยนแปลง Main Feed ที่จะให้ผู้ใช้งานได้เห็นโพสต์จากเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องมากขึ้น ซึ่งล่าสุด ซีอีโออย่าง Mark Zuckerberg ได้ออกมาแถลงเพิ่มแล้วถึงอัปเดทข้อที่สองของปี นั่นคือเรื่องเกี่ยวกับ “ข่าว” ที่ Facebook บอกว่าจะพยายามให้ผู้ใช้งานได้เห็นแต่ข่าวสารที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ โดยจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการสัปดาห์หน้า
โดยซีอีโอคนดังกล่าวว่า การให้ผู้ใช้งานได้เห็นคอนเทนต์ข่าว วิดีโอ หรือโพสต์จากแบรนด์น้อยลงนั้นเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นก็จริง แต่ข่าวก็ยังเป็นคอนเทนต์ที่มีบทบาทสำคัญบนแพลตฟอร์ม Social Media เนื่องจากเป็นส่วนที่ทำให้ผู้ใช้งานมีการพูดคุยในประเด็นนั้น ๆ ร่วมกัน ดังนั้น เขาจึงบอกว่า สิ่งที่ Facebook กำลังจะทำต่อไปก็คือ การทำให้ข่าวที่เผยแพร่บน Facebook นั้นมาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และมีความ Local
เหตุที่ Mark Zuckerberg ดึงเรื่องการเผยแพร่ข่าวขึ้นมาเป็นเรื่องที่สองของปี ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะที่ผ่านมา Facebook โดนโจมตีเกี่ยวกับการเป็นแพลตฟอร์มที่แชร์ข่าวลวง ข่าวเท็จออกมามากมาย แถมยังรวดเร็วมาก ดังนั้น เขาจึงมองว่า การยุติปัญหานี้คือการไม่ให้สื่อเหล่านั้นได้ใช้ Social Media ในการกระจายข่าวสารของตัวเอง โดย Facebook บอกด้วยว่าได้มีการเตรียมความพร้อมทีมพัฒนาในการจัดอันดับข่าวสารเอาไว้แล้ว
ซึ่งในจุดนี้ Facebook ยอมรับว่า การตัดสินใจว่าข่าวใดเป็นข่าวที่เชื่อถือได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก โดยบริษัทได้มีทั้งการทดลองตัดสินด้วยมาตรฐานของตัวเอง หรือการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญภายนอก แต่ก็ยังไม่พบโซลูชันที่เหมาะสม จึงมองว่าการให้ผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มเป็นผู้ฟีดแบ็กว่าข่าวจากแหล่งใดเป็นข่าวที่เชื่อถือได้นั้นน่าจะเป็นทางออกที่ดี
โดยรูปแบบการทำงานจะเป็นการทำสำรวจที่ Facebook จะถามผู้ใช้งานเกี่ยวกับแหล่งข่าวที่พวกเขาคุ้นเคย ว่าทำไมเขาจึงเชื่อถือแหล่งข่าวนี้ ซึ่งมันจะทำให้ Facebook ได้เห็นว่า แต่ละสำนักข่าวมีบุคลิกลักษณะอย่างไร เพราะบางสำนักข่าวก็จะได้รับความเชื่อมั่นจากผู้อ่านและผู้ชมของตัวเองเท่านั้น แต่บางสำนักข่าวก็ได้รับความเชื่อถือในวงกว้างจากสังคม ซึ่งรวมถึงคนที่ติดตามและไม่ได้ติดตามสำนักข่าวนั้น ๆ (โดยตรง) เลยก็ตาม
อย่างไรก็ดี การอัปเดทนี้จะไม่มีผลต่อ “จำนวนข่าว” ที่ผู้ใช้งานเห็นบน Facebook แต่จะส่งผลว่าระบบจะเลือกคอนเทนต์จากแหล่งใดมาแสดงให้ชมกัน โดยพิจารณาจากความเชื่อมั่นของผู้ใช้งานที่ตอบมานั่นเอง
ที่มา : Facebook