ทุกวันนี้เราใช้การสื่อสารด้วยรูปแบบภาษาที่สามารถเข้าใจกันได้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นชาติไหน หรือเรียกว่าเป็นภาษาสากล The New Universal Language เช่น การใช้รูป, สัญลักษณ์อิโมจิ (emoji), สติกเกอร์ และวิดิโอ การสื่อสารจากสิ่งที่เห็นแทนที่ด้วยภาษาที่พูดคุยซึ่งสั้นกระชับ, ประหยัดเวลา และได้ผลอย่างดีมาก ล่าสุด Facebook ก็ออกมาเปิดเผยสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้
ด้วยการที่สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในปัจจุบันมีกล้อง ทำให้เราสามารถที่จะเก็บบันทึกความทรงจำได้ทั้งภาพถ่ายและวิดิโอ จึงทำให้สิ่งเหล่านี้ถูกแชร์เพื่อบอกเล่าเรื่องราวขึ้นมาบนช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะบน Facebook ที่มีสถิติเผยถึงการใช้งานของภาษาสากลบนนี้ ดังนี้
- ในปีที่ผ่านมาจำนวนวิดีโอที่ได้รับการโพสต์โดยผู้ใช้งานแต่ละรายเพิ่มขึ้นร้อยละ 75 ทั่วโลก และร้อยละ 94 ในสหรัฐอเมริกา
- จำนวนวิดีโอบนกระดานข่าวที่ได้รับการโพสต์จากผู้ใช้งานทั่วไปและแบรนด์ เพิ่มขึ้นกว่า 3.6 เท่า เมื่อเทียบปีต่อปี
- โดยเฉลี่ย มากกว่าร้อยละ 50 ของผู้ที่เข้าใช้ Facebook ทุกวันในสหรัฐอเมริกา ดูวิดีโออย่างน้อย 1 วิดีโอต่อวัน
- ร้อยละ 65 ของสัดส่วนการรับชมวิดีโอบน Facebook ทั่วโลกเกิดขึ้นผ่านโทรศัพท์มือถือ
- ร้อยละ 76 ของผู้ใช้งาน Facebook ในสหรัฐอเมริกาบอกว่า เขาพบวิดีโอที่รับชม บน Facebook ซึ่งนับรวมไปถึงบน News Feed เป็นส่วนใหญ่
มันเกี่ยวข้องอย่างไรกับแบรนด์
สำหรับนักการตลาด เทรนด์ของอุปกรณ์สื่อสารเคลื่
สิ่งที่ควรทำมีดังนี้
- ต้องมั่นใจว่าวิดิโอที่ทำออกมาจะต้องเจ๋งตั้งแต่เห็นและเริ่มเปิด เพราะอย่างที่เรารู้ๆ ว่าเราจะสนใจวิดิโอก็ต่อเมื่อมีรูป thumbnail ที่น่าสนใจ หรือเป็นช่วง 3 วินาทีแรกที่มีการเริ่มเล่นแบบอัตโนมัติ ช่วงเวลานี้เป็นเวลาทองคำที่คนสร้างวิดิโอจะต้องวางแผนทำอย่างไรให้ดึงคนที่เห็นหยุดและดูต่อให้จบ
- การออกแบบทั้งแบบปิดเสียงและเปิดเสียง ด้วยรูปแบบของวิดิโอบน Facebook เมื่อเปิดบนโมบายล์จะทำการเล่นแบบอัตโนมัติแบบไม่มีเสียง จะต้องคิดว่าคิดว่าเราจะทำอย่างไรให้คนสนใจ อาจจะเป็นการใส่ข้อความแบบ Subtitles หรือเปล่าเพื่อให้คนอยากจะคลิก แต่ก็ต้องเน้นว่าเนื้อหาและเรื่องที่จะเล่าคือเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างแรก
- โฟกัสในวัตถุประสงค์ของแคมเปญทั้งหมด การจะทำแคมเปญที่ดีจะต้องใช้ส่วนผสมของวัตถุดิบที่มีความสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นทั้งภาพนิ่ง หรือเป็นวิดิโอ แบรนด์ควรจะต้องสร้างและใช้วัตถุดิบที่มีอย่างเหมาะสม และควรดูว่าจะต้องลงในช่องทางใด, อุปกรณ์ที่เปิดใช้ขนาดหน้าจอแบบไหน, ความเร็วในการเชื่อมต่อ เพื่อที่จะให้เข้าถึงและกระตุ้นความสนใจของคนที่เห็นได้
ที่มา: Facebook IQ