80% ของผู้ใช้ไม่โอเคกับการถูกหลอกให้เข้าไปอ่าน Facebook จึงพยายามกำจัดพาดหัวประเภท clickbait มาตั้งแต่สองปีที่แล้ว แต่ปัญหานี้ยังคงรบกวนผู้ใช้ต่อไป Facebook จึงต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ Facebook เคยพยายามลดจำนวน clickbait โดยการวัดระยะเวลาที่คนจะกลับมาหน้า ฟีดหลังจากกดเข้าไปอ่านลิงก์ ว่าจะกลับมาเร็วแค่ไหน ซึ่งวิธีการนี้ก็ยังคงถูกใช้อยู่ เพียงแต่เพิ่มวิธีการอื่นเข้าไป เพื่อให้การตรวจจับเข้มข้นขึ้นไปอีก
Facebook เริ่มต้นโดยการให้พนักงานเข้ามาวิเคราะห์วิธีการพาดหัว การสร้างเรื่องให้ชวนคลิก ซึ่งทีมงานสามารถแบ่งได้เป็น 2 วิธี
1. พาดหัวที่สร้างความสงสัย หรือพาดหัวประเภท “คุณจะไม่เชื่อเลยว่า….” ยกตัวอย่าง คุณจะไม่เชื่อเลยว่าใครล้มในงานพรมแดง
2. พาดหัวที่ทำให้เราเข้าใจผิด เช่น แอปเปิลมีพิษไม่ดีต่อร่างกาย แต่เมื่อกดเข้าไปอ่าน เนื้อหาต้องการจะบอกว่า มันจะไม่ดีต่อเมื่อเราทานเข้าไปทุกวัน
ทั้งนี้ อย่าเข้าใจผิดว่า Facebook จะลบโพสต์เหล่านี้ออกไป
หลังจากอัลกอริทึมของ Facebook จับได้แล้วว่ามันเป็นพาดหัวหลอก คอนเทนต์นั้นจะถูกแสดงผลลดลง ส่งผลให้จำนวนคนที่จะมองเห็นลดลงตามไปด้วย
Adam Mosseri ประธานฝ่ายการจัดการ News Feed อธิบายให้เห็นภาพว่า “ถ้า publisher เจ้าไหน ลงบทความ 50 บาทความต่อวัน และ 48 บทความเป็น clickbait เจ้าของบทความจะรู้สึกได้เลยว่าจำนวนคนที่กดเข้ามายังเว็บไซต์ลดลง”
“คอนเทนต์พวกนี้มีสแปมจำนวนมาก”
Mossier เสริมว่า “Facebook ไม่ได้ต้องการทำให้ทุกการพาดหัวมันน่าเบื่อ หรือไม่น่าสใจ แต่บริษัทต้องตอบสนองกับเสียงเรียกร้องของผู้ที่ใช้ Facebook ทุกวัน ซึ่งไม่มีใครชอบข่าวพาดหัวที่หลอกให้พวกเขาเข้าใจผิด”