หลายคนที่ใช้งาน Facebook เพื่อนำข้อมูลของทาง Facebook เองไปอ้างอิงในที่ต่างๆ โดยเฉพาะ Google อันที่จริงแล้วทาง Facebook ได้สร้าง Facebook Page ที่ใช้ชื่อว่า Brand Resource Center ซึ่งเป็นที่รวมข้อมูลของทาง Facebook เพื่อการใช้งานสัญลักษณ์และเครื่องหมายการค้าให้ถูกต้อง ล่าสุดทาง Facebook ได้ทำการเปลี่ยนรูปแบบจาก Page พร้อมปรับปรุงข้อมูล และเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ที่เก็บข้อมูลประเภทนี้โดยเฉพาะ โดยใช้ชื่อว่า FacebookBrand.com
สำหรับผู้ที่ไม่รู้จัก FacebookBrand.com หรือแม้กระทั่ง Brand Resource Center ที่เป็นชื่อเดิมคงต้องเริ่มอธิบายก่อนเลยว่า หน้าเว็บทั้งสองที่ถูกสร้างขึ้นมาโดย Facebook เพื่ออธิบายและนำเสนอวิธีการนำสัญลักษณ์และเครื่องหมายการค้าของทาง Facebook สำหรับนำไปใช้งานในด้านต่างๆ อย่างถูกต้องโดยมีการอัพเดทข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ
หน้าหลักๆ จะประกอบไปด้วย 3 หน้าย่อยคือ
- Download Brand Assets เป็นหน้าที่จะนำข้อมูลล่าสุดโดยทาง Facebook ใช้งานอยู่ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นไอคอน, โลโกที่เพิ่งจะมีการเปลี่ยนไปเล็กน้อยในเดือนเมษายน 2556, ปุ่ม Like รวมทั้งภาพจับหน้าจอ หรือ screenshot ที่เอามาให้ดูเป็นตัวอย่างเพื่อใช้งานอย่างเป็นทางการและเป็นมาตรฐานในรูปแบบไฟล์ภาพประเภทต่างๆ เพื่อนำไปใช้งานกันเช่น .ai (Adobe Illustrator), PSD (Adobe Photoshop) PNG และมีทั้งแบบบนเบราว์เซอร์, บนสมาร์ทโฟนทั้ง iOS และ Android เรียกได้ว่าครบครัน
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีเอกสารที่ชื่อว่า Asset and Logo Guildlines ที่รวมข้อมูลเพื่อการใช้งานสิ่งต่างๆ ของ Facebook ทั้งโลโกและสีที่ต้องใช้
โลโกเปรียบเทียบ ด้านซ้ายเก่า ด้านขวาตัวล่าสุดที่ใช้ในปัจจุบัน
- Do’s and Don’ts รวมสิ่งที่สามารถทำได้ และทำไม่ได้ไว้ในหน้านี้ รวมทั้งมีการระบุในส่วนของ Merchandizing ที่น่าสนใจว่า สามารถเอาสัญลักษณ์ไอคอน “f” ไปใช้กับหีบห่อผลิตภัณฑ์ได้เลย แต่ห้ามไม่ให้ใช้สัญลักษณ์ปุ่ม Like บนตัวผลิตภัณฑ์
- Top Questions เป็นหน้าที่รวมคำถามที่ถูกถามบ่อยๆ พร้อมคำตอบและ Link ไปยังหน้าคำขอหรือข้อมูลอื่นๆ เช่น หากเราอยากจะทำการเอาสัญลักษณ์ของ Facebook มารวมกับสิ่งที่เราต้องการนั้นทำได้หรือไม่ หรือ หากเราต้องการที่จะเอาสัญลักษณ์ Facebook ไปเป็นส่วนหนึ่งของภาพยนตร์จะต้องมีขั้นตอนและต้องเตรียมอะไรบ้าง เป็นต้น
หลายๆ บนหน้าเว็บนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ค่อนข้างใหม่ที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน สำหรับแบรนด์ต่างๆ ที่จะใช้งานโลโกหรือสิ่งต่างๆ ของทาง Facebook น่าจะต้องศึกษาข้อมูลในหน้าเพจนี้ก่อนที่ใช้งานผิดกับสิ่งที่ทาง Facebook ได้ระบุกันไว้ครับ
ที่มา: insidefacebook