ทุกคนที่ใช้งาน Facebook คงประสบปัญหา ว่าข้อความที่โพสต์ขึ้นไปแล้วไม่เห็นจะมีคนเห็นบนหน้า News Feed เลย ซึ่งจริงๆ แล้วมันมีเบื้องหลังของ Facebook นั่นคือ Algorithm ที่ใช้ในการคัดเลือกว่าโพสต์ไหนที่ควรจะนำมาแสดงบนหน้าจอ News Feed ซึ่งรวบรวมโดย bufferapp.com มาให้ได้อ่านกันครับ
สิ่งที่อัลกอริทึมชอบ
- โพสต์ที่มีจำนวน Comment เยอะ
- โพสต์ที่มีจำนวน Like เยอะ
- ประเภทของการโพสต์อย่างข้อความ, รูปภาพ, วิดิโอมีผล …ตอนนี้รูปที่โพสต์รูปเดียวถูกให้ความสำคัญน้อยที่สุด
- โพสต์ที่มีการพูดถึง Trending Topic ในช่วงเวลานั้น
- โพสต์ที่ได้รับจำนวน Likes, Comments, Share ปริมาณมากในเวลาอันสั้น
- โพสต์ลิงก์ / URL ที่ปลายทางมีสิ่งที่น่าสนใจ
- โพสต์วิดิโอโดยอัปโหลดขึ้นบน Facebook Video โดยมีจำนวน view มาก และมีระยะเวลาในการชมนาน
- โพสต์และ Tag ไปยังเพจอื่นๆ อยู่บนข้อความ ช่วยให้คนเห็นมากขึ้น
- โพสต์นั้นถูกกด Like หรือมีการ Comment โดยเพื่อนคนใดคนหนึ่งที่เป็น Friend ของเรา
- โพสต์จาก Page ที่มีเพื่อนของเรามีปฏิสัมพันธ์ตลอด เช่น Like, Comment, Share
- ประเภทของโพสต์
- โพสต์จาก Page ที่ใส่ข้อมูลของ Page ครบ (บังคับนั่นเอง)
- รูปและวิดิโอไม่เคยอยู่ใน Open Graph มาก่อน (คืออัปโหลดที่แรก)
- โพสต์ที่แชร์ลิงก์ที่ยังไม่เคยโพสต์ที่ไหนมาก่อน
- และอื่นๆ
สิ่งที่อัลกอริทึมไม่ชอบและจะฉุดให้โพสต์ลงจากหน้า News Feed
- โพสต์ล่อให้คลิกเข้าไปชม (Clickbait)
- โพสต์ล่อให้ Like (like-baiting)
- โพสต์เนื้อหาซ้ำๆ
- โพสต์ที่มีลิงก์สแปม
- โพสต์ที่มีแต่ข้อความล้วนๆ (อันนี้แปลก)
- โพสต์ที่ถูก Report หรือถูกให้ซ่อนอยู่บ่อยๆ
- โพสต์ที่มีคำว่า like comment share (หรือเป็นการกระตุ้นให้ทำอะไรบางอย่าง)
- โพสต์ที่ได้ negative feedback ที่ถูกระบุว่าเป็น meme content
อ่านมาทั้งหมดแล้วจะดูว่ามันหยุมหยิมจังเลย แต่ถ้าด้วยเหตุผลของ Facebook ที่มองว่าเขาต้องการให้เนื้อหาหรือ Content ที่มาจากทุก Post บน Facebook มีคุณภาพ เขาจึงต้องคิดเงื่อนไขต่างๆ ที่เราต้องเดินตามทางที่เขาทำเอาไว้
แต่ถึงแม้ว่าจะมีกฎอะไรมากมาย ถ้าเจ้าของเพจคิดโพสต์ที่มีเอกลักษณ์, ทำเนื้อหาที่เข้าถึงและถูกใจคนกลุ่มเป้าหมาย กฎต่างๆ ก็เป็นแค่ส่วนประกอบเล็กๆ ข้างๆ ทางเท่านั้นครับ เพราะ content ยังคงเป็นใหญ่อยู่ในเวลานี้
ที่มา: bufferapp.com