หลังทีมนักวิจัยจาก Princeton University ได้คาดการณ์ว่า Facebook จะศูนย์เสียผู้ใช้มากถึง 80% ในปี 2015 – 2017 จากการเปรียบเทียบความนิยมของ Facebook กับการระบาดของโรค ล่าสุด Facebook เองได้ออกมาตอบโต้ผลการณ์คาดคะเนดังกล่าวของ Princeton University อย่างเผ็ดร้อน
โดยถ้าท้าวความกลับไปแล้ว นักวิจัยจาก Princeton University ได้ใช้ข้อความจำนวนการค้นหาบน Google ในการคาดคะเนความนิยมของ Facebook ที่ตกต่ำลง โดยได้นำมาเปรียบเทียบกับ MySpace โซเชียลเน็ตเวิร์กรุ่นเก่าที่เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงปี 2005 – 2008 ก่อนจะเสื่อมความนิยมลงในช่วงปี 2011 แทนการใช้จำนวนผู้ใช้แบบ Active User ในการคาดคะเน ซึ่งทำให้ผลการวิจัยดังกล่าวนั้นขาดความน่าเชื่อถือเป็นอย่างมาก และทาง Facebook เองจึงได้ออกมาตอบโต้ผลการคาดการณ์ของ Princeton University จากจำนวนการค้นหาของ Princeton University ที่ต่ำลงเช่นกัน
หลัง Facebook พบว่าจำนวนการค้นหาคีย์เวิร์ดต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Princeton University บน Google นั้นก็มีจำนวนที่ลดลงเช่นกัน ทำให้สามารถสรุปได้ว่าจำนวนการสมัครเข้าเรียนต่อ ณ Princeton University ใน 2018 นั้นจะตกต่ำลงถึงครึ่งนึงเลยทีเดียว และในปี 2021 นั้นสถานศึกษาดังกล่าวจะไร้เงาของนักศึกษา แต่การตอบโต้จาก Facebook นั้นก็เป็นไปในเชิงติดตลก (แม้จะเป็นตลกร้ายก็ตาม) โดย Facebook ได้เขียนประกอบการตอบโต้ของพวกเขาในครั้งนี้ว่า พวกเขารัก Princeton University แต่การทำแบบนี้ เป็นการเตือนใหพวกเขาระลึกได้ว่าบางครั้งข้อมูลและสถิติทางวิทยาศาสตร์ต่างๆ อาจนำไปสู่บทสรุปที่ประหลาดและอาจไม่เป็นความจริงก็ได้
นอกจากความไม่น่าเชื่อถือของผลการคาดการณ์ของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชื่อดังจะส่งผลให้ได้รับผลตอบรับเชิงลบจาก Facebook แล้ว หลายๆ สำนักข่าวต่างก็ออกมาชี้แจง และแสดงข้อเท็จจริงอันขัดกับบทสรุปของการคาดการณ์ดังกล่าว อย่างเช่น Los Angeles Times ได้เขียนบทความพาดพิงถึงผลการคาดการณ์ดังกล่าวว่า แม้ทางทฤษฎีนั้น Facebook จะสามารถเสื่อมความนิยมได้อย่างรวดเร็วจริง แต่ในความเป็นจริงหากผู้ใช้ Facebook จะลดลงถึง 80% นั้นหมายความว่าภายใน 3 ปีจะมีผู้ใช้กว่า 952 ล้านคนที่หยุดใช้บริการ Facebook เฉลี่ยปีละ 317 ล้านคนต่อปี นั่นเท่ากับจำนวนประชากรในสหรัฐทั้งประเทศเลยทีเดียว
จริงอยู่ที่ว่าความนิยมของ Facebook ลดลงในกลุ่มผู้ใช้บางกลุ่ม แต่การที่ Facebook จะพบจุดจบอย่างสิ้นเชิงนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจาก Facebook นั้นมาไกลเกินกว่าการเป็นแค่โซเชียลเน็ตเวิร์ก โดย Facebook นั้นเป็นช่องทางการสื่อสารจากแบรนด์ต่างๆ ถึงผู้บริโภค, เป็นช่องทางการสื่อสารกันระหว่างผู้ใช้ด้วยกัน และแอคเคาน์ที่ใช้ในการสมัครใช้งานแอปพลิเคชันต่างๆ มากมายทั่วโลก ฉะนั้นความเป็นไปได้ที่ Facebook จะศูนย์เสียผู้ใช้ถึง 80 ใน 3 ปีข้างหน้านั้นจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้
ที่มา : Los Angeles Times