ในที่สุด ยักษ์ใหญ่โลจิสติกส์ของโลกก็มองบริษัทอีคอมเมิร์ซเป็นคู่แข่ง โดยซีอีโอ FedEx ยอมรับว่า Amazon เป็นหนึ่งในคู่แข่งหลักของบริษัท ซึ่งมีแนวโน้มเป็นภัยคุกคามต่อธุรกิจจัดส่งแพ็กเกจสินค้าของ FedEx อย่างจริงจัง
สวนทางกับก่อนหน้านี้ที่ไม่เคยเอ่ยชื่อ Amazon ในฐานะคู่ท้าชิงเลย แต่การยอมรับครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะ Amazon กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาดสหรัฐอเมริกา และกำลังสร้างบริการจัดส่งสินค้าของตัวเองอย่างเป็นรูปธรรมต่อเนื่อง
การที่ FedEx ยอมรับว่ามอง Amazon เป็นคู่แข่งนั้นได้รับความสนใจมาก เนื่องจากเป็นข่าวที่สะท้อนการเปลี่ยนแปลงมุมมองธุรกิจ FedEx ได้ดี ซึ่ง Fred Smith ซีอีโอของ FedEx แสดงจุดยืนต่อหน้านักลงทุนเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยการเรียกอาณาจักรโลจิสติกส์ที่เติบโตต่อเนื่องของ Jeff Bezos ว่าเป็นก้างชิ้นใหญ่ที่บริษัทต้องท้าชน
โลจิสติก 5 รายหลัก
Smith ย้ำว่าวันนี้ FedEx มีคู่แข่งขัน 5 รายในตลาด นั่นคือ UPS, DHL, US Postal Service และก็มี Amazon ที่ขยายธุรกิจโลจิสติกส์มากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งหมดนี้ทำให้ FedEx พยายามคิดใหม่ทำใหม่เกี่ยวกับวิธีการแข่งขัน ซึ่งจะถูกโฟกัสไปคู่กับการให้บริการที่ดีที่สุด
การยอมรับครั้งนี้แตกต่างจากสิ่งที่ Smith เคยส่งสัญญาณกับนักลงทุน เพราะเมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Smith เลี่ยงไม่พูดถึงอิทธิพลของ Amazon ต่อธุรกิจของ FedEx โดยตรง ซึ่งเวลานั้น FedEx กล่าวเพียงว่ามีโอกาสที่บริษัทจะถูก disrupted และที่ไม่ได้มอง Amazon ว่าเป็นคู่แข่งเพราะเหตุผลหลายประการ
เปิดแผนเครื่องบิน Amazon 70 ลำ
สำหรับ Amazon วันนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ และได้สร้างบริการจัดส่งแพ็กเกจของตัวเองอย่างต่อเนื่อง มีผู้ให้บริการจัดส่งระยะทางหลายร้อยไมล์ และวางแผนที่จะมีเครื่องบินขนส่งสินค้า 70 ลำภายในปี 2021
และเมื่อ Amazon เริ่มดำเนินการจัดส่งแพ็กเกจตัวเองมากขึ้น Amazon ก็ประกาศสิ้นสุดสัญญากับ FedEx มีผลกับบริการจัดส่งกับ FedEx ในช่วงกลางนี้ ซึ่งทำให้ FedEx ที่ถูกมองเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุดในอเมริกา อาจประสบปัญหารายได้หดตัวชัดเจน
ที่มา: : Business Insider